À propos de la propriété intellectuelle Formation en propriété intellectuelle Respect de la propriété intellectuelle Sensibilisation à la propriété intellectuelle La propriété intellectuelle pour… Propriété intellectuelle et… Propriété intellectuelle et… Information relative aux brevets et à la technologie Information en matière de marques Information en matière de dessins et modèles industriels Information en matière d’indications géographiques Information en matière de protection des obtentions végétales (UPOV) Lois, traités et jugements dans le domaine de la propriété intellectuelle Ressources relatives à la propriété intellectuelle Rapports sur la propriété intellectuelle Protection des brevets Protection des marques Protection des dessins et modèles industriels Protection des indications géographiques Protection des obtentions végétales (UPOV) Règlement extrajudiciaire des litiges Solutions opérationnelles à l’intention des offices de propriété intellectuelle Paiement de services de propriété intellectuelle Décisions et négociations Coopération en matière de développement Appui à l’innovation Partenariats public-privé Outils et services en matière d’intelligence artificielle L’Organisation Travailler avec nous Responsabilité Brevets Marques Dessins et modèles industriels Indications géographiques Droit d’auteur Secrets d’affaires Académie de l’OMPI Ateliers et séminaires Application des droits de propriété intellectuelle WIPO ALERT Sensibilisation Journée mondiale de la propriété intellectuelle Magazine de l’OMPI Études de cas et exemples de réussite Actualités dans le domaine de la propriété intellectuelle Prix de l’OMPI Entreprises Universités Peuples autochtones Instances judiciaires Ressources génétiques, savoirs traditionnels et expressions culturelles traditionnelles Économie Financement Actifs incorporels Égalité des genres Santé mondiale Changement climatique Politique en matière de concurrence Objectifs de développement durable Technologies de pointe Applications mobiles Sport Tourisme PATENTSCOPE Analyse de brevets Classification internationale des brevets Programme ARDI – Recherche pour l’innovation Programme ASPI – Information spécialisée en matière de brevets Base de données mondiale sur les marques Madrid Monitor Base de données Article 6ter Express Classification de Nice Classification de Vienne Base de données mondiale sur les dessins et modèles Bulletin des dessins et modèles internationaux Base de données Hague Express Classification de Locarno Base de données Lisbon Express Base de données mondiale sur les marques relative aux indications géographiques Base de données PLUTO sur les variétés végétales Base de données GENIE Traités administrés par l’OMPI WIPO Lex – lois, traités et jugements en matière de propriété intellectuelle Normes de l’OMPI Statistiques de propriété intellectuelle WIPO Pearl (Terminologie) Publications de l’OMPI Profils nationaux Centre de connaissances de l’OMPI Série de rapports de l’OMPI consacrés aux tendances technologiques Indice mondial de l’innovation Rapport sur la propriété intellectuelle dans le monde PCT – Le système international des brevets ePCT Budapest – Le système international de dépôt des micro-organismes Madrid – Le système international des marques eMadrid Article 6ter (armoiries, drapeaux, emblèmes nationaux) La Haye – Le système international des dessins et modèles industriels eHague Lisbonne – Le système d’enregistrement international des indications géographiques eLisbon UPOV PRISMA UPOV e-PVP Administration UPOV e-PVP DUS Exchange Médiation Arbitrage Procédure d’expertise Litiges relatifs aux noms de domaine Accès centralisé aux résultats de la recherche et de l’examen (WIPO CASE) Service d’accès numérique aux documents de priorité (DAS) WIPO Pay Compte courant auprès de l’OMPI Assemblées de l’OMPI Comités permanents Calendrier des réunions WIPO Webcast Documents officiels de l’OMPI Plan d’action de l’OMPI pour le développement Assistance technique Institutions de formation en matière de propriété intellectuelle Mesures d’appui concernant la COVID-19 Stratégies nationales de propriété intellectuelle Assistance en matière d’élaboration des politiques et de formulation de la législation Pôle de coopération Centres d’appui à la technologie et à l’innovation (CATI) Transfert de technologie Programme d’aide aux inventeurs WIPO GREEN Initiative PAT-INFORMED de l’OMPI Consortium pour des livres accessibles L’OMPI pour les créateurs WIPO Translate Speech-to-Text Assistant de classification États membres Observateurs Directeur général Activités par unité administrative Bureaux extérieurs Avis de vacance d’emploi Achats Résultats et budget Rapports financiers Audit et supervision
Arabic English Spanish French Russian Chinese
Lois Traités Jugements Recherche par ressort juridique

Loi sur les brevets B.E. 2522 (1979) (telle que modifiée jusqu'à la loi sur les brevets (n° 3) B.E. 2542 (1999)), Thaïlande

Retour
Version la plus récente dans WIPO Lex
Détails Détails Année de version 1999 Dates Modifié jusqu’à: 27 septembre 1999 Entrée en vigueur: 12 septembre 1979 Promulgué: 11 mars 1979 Type de texte Principales lois de propriété intellectuelle Sujet Brevets (Inventions), Modèles d'utilité, Dessins et modèles industriels Sujet (secondaire) Mise en application des droits, Organe de réglementation de la PI Notes This consolidated version of the Patent Act B.E. 2522 (1979) takes into account amendments up to the "Patent Act (No. 3) B.E. 2542 (1999))", which entered into force on September 27, 1999.

Documents disponibles

Texte(s) principal(aux) Textes connexe(s)
Texte(s) princip(al)(aux) Texte(s) princip(al)(aux) Thaï พระราชบัญญัติสิทธิบัตร พ.ศ. 2522 (ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติสิทธิบัตร (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2542)         Anglais Patent Act B.E. 2522 (1979) (as amended up to Patent Act (No. 3) B.E. 2542 (1999))     
 
Télécharger le PDF open_in_new
 
Télécharger le PDF open_in_new
 พระราชบัญญัติสิทธิบัตร พ.ศ. ๒๕๒๒

พระราชบัญญัติสิทธิบัตร พ.ศ. ๒๕๒๒

แก้ไขเพิม่เติมโดย พ.ร.บ. สิทธิบัตร (ฉบับที่ ๓)

พ.ศ. ๒๕๔๒

ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.

ใหไ้ว้ ณ วนัท่ี ๑๑ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๒๒

เป็นปีท่ี ๓๔ ในรัชกาลปัจจุบนั

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกลา้ฯ ใหป้ระกาศวา่

โดยท่ีเป็นการสมควรมีกฎหมายวา่ดว้ยสิทธิบตัรเพื่อคุม้ครองการประดิษฐ์ และการออกแบบผลิตภณัฑ์

จึงทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ฯ ใหต้ราพระราชบญัญติัข้ึนไว้ โดยคาํแนะนาํ

และยนิยอมของสภานิติบญัญติัแห่งชาติทาํหนา้ท่ีรัฐสภา ดงัต่อไปน้ี

มาตรา ๑ พระราชบญัญติัน้ีเรียกวา่ "พระราชบญัญติัสิทธิบตัร พ.ศ. ๒๕๒๒"

มาตรา ๒ พระราชบญัญติัน้ีใหใ้ชบ้งัคบัเม่ือพน้กาํหนดหน่ึงร้อยแปดสิบวนั

นบัแต่วนัประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นตน้ไป

หมวด ๑

บททัว่ไป

มาตรา ๓ในพระราชบญัญติัน้ี

"สิทธิบัตร" หมายความวา่ หนงัสือสาํคญัท่ีออกใหเ้พื่อคุม้ครองการประดิษฐ์

หรือการออกแบบผลิตภณัฑ์ ตามท่ีกาํหนดในหมวด ๒ และหมวด ๓ แห่งพระราชบญัญติัน้ี

"อนุสิทธิบัตร" หมายความวา่ หนงัสือสาํคญัท่ีออกให้เพื่อคุม้ครองการประดิษฐ์ ตามท่ีกาํหนดในหมวด

๓ ทวิ แห่งพระราชบญัญติัน้ี

"การประดิษฐ์" หมายความวา่ การคิดคน้หรือคิดทาํข้ึน อนัเป็นผลให้

ไดม้าซ่ึงผลิตภณัฑห์รือกรรมวธีิใดข้ึนใหม่ หรือการกระทาํใด ๆ ท่ีทาํใหดี้ข้ึนซ่ึงผลิตภณัฑห์รือกรรมวธีิ

"กรรมวธีิ" หมายความวา่ วธีิการ กระบวนการ หรือกรรมวธีิในการผลิต

หรือการเก็บรักษาใหค้งสภาพหรือใหมี้คุณภาพดีข้ึนหรือการปรับสภาพใหดี้ข้ึนซ่ึงผลิตภณัฑ์

และรวมถึงการใชก้รรมวธีินั้น ๆ ดว้ย

"แบบผลติภัณฑ์" หมายความวา่ รูปร่างของผลิตภณัฑ์ หรือองคป์ระกอบ ของลวดลาย

หรือสีของผลิตภณัฑ์

อนัมีลกัษณะพิเศษสาํหรับผลิตภณัฑซ่ึ์งสามารถใชเ้ป็นแบบสาํหรับผลิตภณัฑ์อุตสาหกรรมรวมทั้งหตัถกรรมได้

"ผู้ทรงสิทธิบัตร" หมายความรวมถึงผูรั้บโอนสิทธิบตัร

"ผู้ทรงอนุสิทธิบัตร" หมายความรวมถึงผูรั้บโอนอนุสิทธิบตัร

"คณะกรรมการ" หมายความวา่ คณะกรรมการสิทธิบตัร

"พนักงานเจ้าหน้าที่" หมายความวา่ ผูซ่ึ้งรัฐมนตรีแต่งตั้งใหป้ฏิบติัการตามพระราชบญัญติัน้ี

"อธิบดี" หมายความวา่ อธิบดีกรมทรัพยสิ์นทางปัญญา และใหห้มายความ

รวมถึงผูซ่ึ้งอธิบดีกรมทรัพยสิ์นทางปัญญามอบหมายดว้ย

"รัฐมนตรี" หมายความวา่ รัฐมนตรีผูรั้กษาการตามพระราชบญัญติัน้ี

มาตรา ๔ ใหรั้ฐมนตรีวา่การกระทรวงพาณิชยรั์กษาการตามพระราชบญัญติัน้ี

และใหมี้อาํนาจแต่งตั้งพนกังานเจา้หนา้ท่ี ออกกฎกระทรวง

กาํหนดค่าธรรมเนียมไม่เกินอตัราตามบญัชีทา้ยพระราชบญัญติัน้ี ลดหรือยกเวน้ค่าธรรมเนียม

และกาํหนดกิจการอ่ืนเพื่อ ปฏิบติัการตามพระราชบญัญติัน้ี

กฎกระทรวงนั้น เม่ือไดป้ระกาศในราชกิจจานุเบกษาแลว้ ใหใ้ชบ้งัคบัได้

หมวด ๒

สิทธิบัตรการประดิษฐ์

ส่วนที่ ๑

การขอรับสิทธิบัตร

มาตรา ๕ ภายใตบ้งัคบัมาตรา ๙ การประดิษฐท่ี์ขอรับสิทธิบตัรไดต้อ้งประกอบ ดว้ยลกัษณะดงัต่อไปน้ี

(๑) เป็นการประดิษฐข้ึ์นใหม่

(๒) เป็นการประดิษฐท่ี์มีขั้นการประดิษฐสู์งข้ึน และ

(๓) เป็นการประดิษฐท่ี์สามารถประยกุตใ์นทางอุตสาหกรรม

มาตรา ๖ การประดิษฐข้ึ์นใหม่ ไดแ้ก่ การประดิษฐท่ี์ไม่เป็นงานท่ีปรากฏอยูแ่ลว้

งานท่ีปรากฏอยูแ่ลว้ ใหห้มายความถึงการประดิษฐ์ ดงัต่อไปน้ีดว้ย

(๑) การประดิษฐท่ี์มีหรือใชแ้พร่หลายอยูแ่ลว้ในราชอาณาจกัรก่อนวนัขอรับสิทธิบตัร

(๒) การประดิษฐท่ี์ไดมี้การเปิดเผยสาระสาํคญัหรือรายละเอียดในเอกสาร

หรือส่ิงพิมพท่ี์ไดเ้ผยแพร่อยูแ่ลว้ไม่วา่ในหรือนอกราชอาณาจกัรก่อนวนัขอรับสิทธิบตัร และ

ไม่วา่การเปิดเผยนั้นจะกระทาํโดยเอกสาร ส่ิงพิมพ์ การนาํออกแสดง

หรือการเปิดเผยต่อสาธารณชนดว้ยประการใด ๆ

(๓)

การประดิษฐท่ี์ไดรั้บสิทธิบตัรหรืออนุสิทธิบตัรแลว้ไม่วา่ในหรือนอกราชอาณาจกัรก่อนวนัขอรับสิทธิบตัร

(๔)

การประดิษฐท่ี์มีผูข้อรับสิทธิบตัรหรืออนุสิทธิบตัรไวแ้ลว้นอกราชอาณาจกัรเป็นเวลาเกินสิบแปดเดือน

ก่อนวนัขอรับสิทธิบตัรแต่ยงัมิไดมี้การออกสิทธิบตัรหรืออนุสิทธิบตัรให้

(๕) การประดิษฐท่ี์มีผูข้อรับสิทธิบตัรหรืออนุสิทธิบตัรไวแ้ลว้ไม่วา่ในหรือนอกราชอาณาจกัร

และไดป้ระกาศโฆษณาแลว้ก่อนวนัขอรับสิทธิบตัรในราชอาณาจกัร

การเปิดเผยสาระสาํคญัหรือรายละเอียดท่ีเกิดข้ึนหรือเป็นผลมาจากการ กระทาํอนัมิชอบดว้ยกฎหมาย

หรือการเปิดเผยสาระสาํคญัหรือรายละเอียดโดยผูป้ระดิษฐ์

รวมทั้งการแสดงผลงานของผูป้ระดิษฐใ์นงานแสดงสินคา้ระหวา่งประเทศ

หรือในงานแสดงต่อสาธารณชนของทางราชการและการเปิดเผยสาระสาํคญัหรือรายละเอียดดงักล่าวไดก้ระทาํภ

ายในสิบสองเดือนก่อนท่ีจะมีการขอรับสิทธิบตัร มิใหถื้อวา่เป็นการเปิดเผยสาระ สาํคญัหรือรายละเอียดตาม

(๒)

มาตรา ๗ การประดิษฐท่ี์มีขั้นการประดิษฐสู์งข้ึน ไดแ้ก่

การประดิษฐท่ี์ไม่เป็นท่ีประจกัษโ์ดยง่ายแก่บุคคลท่ีมีความชาํนาญในระดบัสามญัสาํหรับงานประเภทนั้น

มาตรา ๘ การประดิษฐท่ี์สามารถประยกุตใ์นทางอุตสาหกรรม ไดแ้ก่ การ

ประดิษฐท่ี์สามารถนาํไปใชป้ระโยชน์ในการผลิตทางอุตสาหกรรม รวมทั้งหตัถกรรม เกษตรกรรม

และพาณิชยกรรม

มาตรา ๙ การประดิษฐด์งัต่อไปน้ีไม่ไดรั้บความคุม้ครองตามพระราชบญัญติั

(๑) จุลชีพและส่วนประกอบส่วนใดส่วนหน่ึงของจุลชีพท่ีมีอยูต่าม ธรรมชาติ สัตว์ พืช

หรือสารสกดัจากสัตวห์รือพืช

(๒) กฎเกณฑแ์ละทฤษฎีทางวทิยาศาสตร์และคณิตศาสตร์

(๓) ระบบขอ้มูลสาํหรับการทาํงานของเคร่ืองคอมพิวเตอร์

(๔) วธีิการวนิิจฉยั บาํบดั หรือรักษาโรคมนุษย์ หรือสัตว์

(๕) การประดิษฐท่ี์ขดัต่อความสงบเรียบร้อย หรือศีลธรรมอนัดี อนามยัหรือสวสัดิภาพของประชาชน

มาตรา ๑๐ ผูป้ระดิษฐ์เป็นผูมี้สิทธิขอรับสิทธิบตัร

และมีสิทธิท่ีจะไดรั้บการระบุช่ือวา่เป็นผูป้ระดิษฐใ์นสิทธิบตัรสิทธิขอรับสิทธิบตัรยอ่มโอนและรับมรดกกนัได้

การโอนสิทธิขอรับสิทธิบตัรตอ้งทาํเป็นหนงัสือลงลายมือช่ือผูโ้อนและ ผูรั้บโอน

มาตรา ๑๑ สิทธิขอรับสิทธิบตัรสาํหรับการประดิษฐซ่ึ์งลูกจา้งไดป้ระดิษฐ์ข้ึน

โดยการทาํงานตามสัญญาจา้งหรือโดยสัญญาจา้งท่ีมีวตัถุประสงคใ์หท้าํการประดิษฐ์

ยอ่มตกไดแ้ก่นายจา้งเวน้แต่สัญญาจา้งจะระบุไวเ้ป็นอยา่งอ่ืน

ความในวรรคหน่ึง ใหใ้ชบ้งัคบัแก่กรณีท่ีลูกจา้งท่ีทาํการประดิษฐส่ิ์ง หน่ึงส่ิงใดดว้ยการใชว้ธีิการ

สถิติหรือรายงานซ่ึงลูกจา้งสามารถใชห้รือล่วงรู้ไดเ้พราะการเป็นลูกจา้งตามสัญญาจา้งนั้นแมว้า่สัญญาจา้งจะมิไ

ดเ้ก่ียวขอ้งกบัการประดิษฐ์

มาตรา ๑๒

เพื่อส่งเสริมใหมี้การประดิษฐแ์ละเพื่อความเป็นธรรมแก่ลูกจา้งในกรณีท่ีการประดิษฐ์ของลูกจา้งตามมาตรา ๑๑

วรรคหน่ึง ถา้นายจา้งไดรั้บประโยชน์จากการประดิษฐ์หรือนาํส่ิงประดิษฐ์นั้นไปใช้

ใหลู้กจา้งมีสิทธิไดรั้บบาํเหน็จพิเศษจากนายจา้งนอกเหนือจากค่าจา้งตามปกติได้

ใหลู้กจา้งท่ีทาํการประดิษฐ์ตามมาตรา ๑๑ วรรคสอง มีสิทธิไดรั้บ บาํเหน็จพิเศษจากนายจา้ง

สิทธิท่ีจะไดรั้บบาํเหน็จพิเศษจะถูกตดัโดยสัญญาจา้งหาไดไ้ม่

การขอรับสิทธิตามวรรคหน่ึงและวรรคสอง ใหย้ื่นต่ออธิบดีตาม

หลกัเกณฑแ์ละวธีิการท่ีกาํหนดในกฎกระทรวง และใหอ้ธิบดีมีอาํนาจกาํหนดบาํเหน็จพิเศษ

ใหแ้ก่ลูกจา้งตามท่ีเห็นสมควรโดยคาํนึงถึงค่าจา้ง ความสาํคญัในการประดิษฐ์ ประโยชน์

ท่ีนายจา้งไดรั้บหรือจะไดรั้บจากการประดิษฐ์ดงักล่าว และเง่ือนไขอ่ืนตามท่ีกาํหนดใน กฎกระทรวง

มาตรา ๑๓ เพื่อประโยชน์ในการส่งเสริมการประดิษฐข์องขา้ราชการ หรือพนกังานองคก์ารของรัฐ

หรือรัฐวสิาหกิจ ใหถื้อวา่ขา้ราชการ หรือพนกังานองคก์ารของรัฐหรือ

รัฐวสิาหกิจมีสิทธิเช่นเดียวกบัลูกจา้งตามความในมาตรา ๑๒

เวน้แต่ระเบียบของทางราชการหรือองคก์ารของรัฐหรือรัฐวสิาหกิจนั้น จะกาํหนดไวเ้ป็นอยา่งอ่ืน

มาตรา ๑๔ บุคคลซ่ึงจะขอรับสิทธิบตัรไดต้อ้งมีคุณสมบติัอยา่งใดอยา่งหน่ึง ดงัต่อไปน้ี

(๑) มีสัญชาติไทย หรือเป็นนิติบุคคลท่ีมีสาํนกังานแห่งใหญ่ตั้งอยูใ่นประเทศไทย

(๒) มีสัญชาติของประเทศท่ีเป็นภาคีแห่งอนุสัญญา

หรือความตกลงระหวา่งประเทศเก่ียวกบัการคุม้ครองสิทธิบตัรซ่ึงประเทศไทยเป็นภาคีอยูด่ว้ย

(๓) มีสัญชาติของประเทศท่ียินยอมใหบุ้คคลสัญชาติไทยหรือนิติบุคคลท่ีมีสาํนกังานแห่งใหญ่

ตั้งอยูใ่นประเทศไทยขอรับสิทธิบตัรในประเทศนั้นได้

(๔) มีภูมิลาํเนา

หรืออยูใ่นระหวา่งการประกอบอุตสาหกรรมหรือพาณิชยกรรมอยา่งแทจ้ริงและจริงจงัในประเทศไทย

หรือประเทศท่ีเป็นภาคีแห่งอนุสัญญาหรือความตกลงระหวา่งประเทศเก่ียวกบัการคุม้ครองสิทธิบตัรซ่ึงประเทศ

ไทยเป็นภาคีอยูด่ว้ย

มาตรา ๑๕ ถา้มีบุคคลหลายคนทาํการประดิษฐร่์วมกนั บุคคลเหล่านั้นมีสิทธิขอรับสิทธิบตัรร่วมกนั

ในกรณีผูป้ระดิษฐร่์วมคนใดไม่ยอมร่วมขอรับสิทธิบตัร หรือติดต่อ ไม่ได้ หรือไม่มีสิทธิขอรับสิทธิบตัร

ผูป้ระดิษฐค์นอ่ืนจะขอรับสิทธิบตัรสาํหรับการประดิษฐท่ี์ไดท้าํร่วมกนันั้นในนามของตนเองก็ได้

ผูป้ระดิษฐ์ร่วมซ่ึงไม่ไดร่้วมขอรับสิทธิบตัรจะขอเขา้เป็นผูร่้วมขอรับสิทธิบตัรเม่ือใดก็ไดก่้อนมีการออกสิทธิบตั

ร เม่ือไดรั้บคาํขอแลว้ ใหพ้นกังานเจา้หนา้ท่ีแจง้กาํหนดวนัสอบสวนไปยงัผูข้อรับสิทธิบตัร

ในการน้ีใหส่้งสาํเนาคาํขอไปยงัผูข้อรับสิทธิบตัรและผูร่้วมขอรับสิทธิบตัรคนอ่ืนดว้ย

ในการสอบสวนตามวรรคสาม พนกังานเจา้หนา้ท่ีจะเรียกผูข้อรับ สิทธิบตัรและผูร่้วมขอรับสิทธิบตัร

มาใหถ้อ้ยคาํช้ีแจงหรือใหส่้งเอกสารหรือส่ิงใดเพิ่มเติม ก็ได้

เม่ือพนกังานเจา้หนา้ท่ีไดด้าํเนินการสอบสวนและอธิบดีไดว้นิิจฉยัแลว้

ใหแ้จง้คาํวนิิจฉยัไปยงัผูข้อรับสิทธิบตัรและผูร่้วมขอรับสิทธิบตัร

มาตรา ๑๖ ในกรณีบุคคลหลายคนต่างทาํการประดิษฐอ์ยา่งเดียวกนัโดยไม่ไดร่้วมกนั

ใหบุ้คคลซ่ึงไดย้ืน่คาํขอรับสิทธิบตัรไวก่้อนเป็นผูมี้สิทธิรับสิทธิบตัร ถา้ยืน่คาํขอรับสิทธิบตัร ในวนัเดียวกนั

ใหท้าํความตกลงกนัวา่จะให้บุคคลใดมีสิทธิแต่ผูเ้ดียวหรือใหมี้สิทธิร่วมกนั

ถา้ตกลงกนัไม่ไดภ้ายในเวลาท่ีอธิบดีกาํหนด ใหคู้่กรณีนาํคดีไปสู่ศาลภายในกาํหนดเกา้สิบวนั

นบัแต่วนัส้ินระยะเวลาท่ีอธิบดีกาํหนด ถา้ไม่นาํคดีไปสู่ศาลภายในกาํหนดดงักล่าว ให้ถือวา่

บุคคลเหล่านั้นละทิ้งคาํขอรับสิทธิบตัร

มาตรา ๑๗ การขอรับสิทธิบตัรให้เป็นไปตามหลกัเกณฑแ์ละวธีิการท่ีกาํหนดโดยกฎกระทรวง

คาํขอรับสิทธิบตัรใหมี้รายการดงัต่อไปน้ี

(๑) ช่ือท่ีแสดงถึงการประดิษฐ์

(๒) ลกัษณะและความมุ่งหมายของการประดิษฐ์

(๓) รายละเอียดการประดิษฐ์ท่ีมีขอ้ความสมบูรณ์ รัดกุม และชดัแจง้

อนัจะทาํใหผู้มี้ความชาํนาญในระดบัสามญัในศิลปะหรือวิทยาการท่ีเก่ียวขอ้งสามารถทาํและปฏิบติัการตามการ

ประดิษฐน์ั้นได้ และตอ้งระบุวธีิการในการประดิษฐท่ี์ดีท่ีสุดท่ีผูป้ระดิษฐ์จะพึงทราบได้

(๔) ขอ้ถือสิทธิโดยชดัแจง้

(๕) รายการอ่ืนตามท่ีกาํหนดโดยกฎกระทรวง

ในกรณีท่ีประเทศไทยเขา้เป็นภาคีแห่งความตกลงหรือความร่วมมือระหวา่งประเทศเก่ียวกบัสิทธิบตัร

หากคาํขอรับสิทธิบตัรเป็นไปตามท่ีกาํหนดในความตกลงหรือความร่วมมือระหวา่งประเทศดงักล่าว

ใหถื้อวา่คาํขอดงักล่าวเป็นคาํขอรับสิทธิบตัรตาม พระราชบญัญติัน้ี

มาตรา ๑๘ คาํขอรับสิทธิบตัรแต่ละฉบบั ใหข้อไดเ้ฉพาะการประดิษฐ์อยา่งเดียว

คาํขอรับสิทธิบตัรเพื่อการประดิษฐห์ลายอยา่งในคาํขอฉบบัเดียวกนั

จะกระทาํไดต่้อเม่ือการประดิษฐห์ลายอยา่งนั้นมีความเก่ียวพนัอนัอาจถือไดว้า่เป็นการประดิษฐอ์ยา่งเดียวกนั

มาตรา ๑๙ บุคคลใดแสดงการประดิษฐ์หรือส่ิงประดิษฐใ์นงานแสดงต่อสาธารณชน

ซ่ึงหน่วยงานของรัฐเป็นผูจ้ดัหรืออนุญาตใหมี้ข้ึนในราชอาณาจกัร

ถา้ไดย้ืน่คาํขอรับสิทธิบตัรสาํหรับการประดิษฐ์นั้นภายในสิบสองเดือนนบัแต่วนัเปิดงานแสดงต่อสาธารณชน

ใหถื้อวา่ ไดย้ืน่คาํขอนั้นในวนัเปิดงานแสดงนั้น

มาตรา ๑๙ ทวิ บุคคลตามมาตรา ๑๔ ท่ีไดย้ืน่คาํขอรับสิทธิบตัรสาํหรับการ

ประดิษฐไ์วน้อกราชอาณาจกัร ถา้ยืน่คาํขอรับสิทธิบตัรสาํหรับการประดิษฐ์นั้นใน

ราชอาณาจกัรภายในสิบสองเดือนนบัแต่วนัท่ีไดย้ืน่คาํขอรับสิทธิบตัรนอกราชอาณาจกัรเป็น คร้ังแรก

บุคคลนั้นจะขอให้ระบุวา่วนัท่ีไดย้ืน่คาํขอรับสิทธิบตัรนอกราชอาณาจกัรเป็นคร้ังแรกเป็นวนัท่ีไดย้ืน่คาํขอในรา

ชอาณาจกัรก็ได้

มาตรา ๒๐ ผูข้อรับสิทธิบตัรอาจขอแกไ้ขเพิ่มเติมคาํขอรับสิทธิบตัรได้

ตามหลกัเกณฑแ์ละวธีิการท่ีกาํหนดโดยกฎกระทรวง

แต่การแกไ้ขเพิ่มเติมนั้นตอ้งไม่เป็นการเพิ่มเติมสาระสาํคญัของการประดิษฐ์

มาตรา ๒๑ หา้มมิใหเ้จา้พนกังานซ่ึงมีหนา้ท่ีเก่ียวกบัการขอรับสิทธิบตัรเปิดเผยรายละเอียดการประดิษฐ์

หรือยอมใหบุ้คคลใดตรวจหรือคดัสาํเนารายละเอียดการประดิษฐ์ ไม่วา่โดยวธีิใด ๆ

ก่อนมีการประกาศโฆษณาตามมาตรา ๒๘ เวน้แต่จะไดรั้บความยนิยอม เป็นหนงัสือจากผูข้อรับสิทธิบตัร

มาตรา ๒๒ หา้มมิใหบุ้คคลใดซ่ึงรู้อยูว่า่การประดิษฐ์นั้นไดมี้ผูย้ืน่คาํขอรับ

สิทธิบตัรไวแ้ลว้เปิดเผยรายละเอียดการประดิษฐไ์ม่วา่โดยวธีิใด ๆ

หรือกระทาํโดยประการอ่ืนท่ีอาจจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผูข้อรับสิทธิบตัร

ก่อนมีการประกาศโฆษณาตามมาตรา ๒๘ เวน้แต่จะไดรั้บความยนิยอมเป็นหนงัสือจากผูข้อรับสิทธิบตัร

มาตรา ๒๓ ในกรณีอธิบดีเห็นวา่การประดิษฐต์ามคาํขอรับสิทธิบตัรใดเป็นการประดิษฐ์

ท่ีตอ้งรักษาไวเ้ป็นความลบัเพื่อประโยชน์แก่ความมัน่คงแห่งราชอาณาจกัร

อธิบดีมีอาํนาจสั่งใหป้กปิดสาระสาํคญัและรายละเอียดการประดิษฐ์นั้นไวเ้ป็นความลบั

จนกวา่จะสั่งเป็นอยา่งอ่ืน

หา้มมิใหบุ้คคลใดรวมทั้งผูข้อรับสิทธิบตัรเปิดเผยสาระสาํคญัหรือ รายละเอียดการประดิษฐ์

โดยรู้อยูว่า่อธิบดีไดส้ั่งใหป้กปิดไวเ้ป็นความลบัตามวรรคหน่ึง เวน้แต่ จะมีอาํนาจทาํไดโ้ดยชอบดว้ยกฎหมาย

ส่วนที่ ๒

การออกสิทธิบัตร

มาตรา ๒๔ ในการออกสิทธิบตัรเพื่อคุม้ครองการประดิษฐ์ ใหพ้นกังานเจา้หนา้ท่ีทาํการตรวจสอบ ดงัน้ี

(๑) ตรวจสอบคาํขอรับสิทธิบตัรใหถู้กตอ้งตามมาตรา ๑๗

(๒) ตรวจสอบการประดิษฐว์า่เป็นการประดิษฐ์ตามมาตรา ๕

ทั้งน้ี ใหเ้ป็นไปตามหลกัเกณฑ์ วธีิการ และเง่ือนไขท่ีกาํหนดโดย กฎกระทรวง

มาตรา ๒๕ เพื่อประโยชน์ในการพิจารณาออกสิทธิบตัร อธิบดีอาจขอใหส่้วนราชการ หน่วยงานของรัฐ

หรือองคก์ารของรัฐ หรือสาํนกังานหรือองคก์ารสิทธิบตัรของรัฐต่างประเทศ หรือระหวา่งประเทศ

ตรวจสอบการประดิษฐ์ตามมาตรา ๕ มาตรา ๖ มาตรา ๗ มาตรา ๘ และมาตรา ๙

หรือรายละเอียดการประดิษฐ์ตามมาตรา ๑๗ (๓) ตามคาํขอรับสิทธิบตัรได้

และอธิบดีอาจใหถื้อวา่การปฏิบติังานในการตรวจสอบนั้นเป็นการปฏิบติังานของพนกังาน เจา้หนา้ท่ีได้

มาตรา ๒๖ ในการตรวจสอบคาํขอรับสิทธิบตัร ถา้พนกังานเจา้หนา้ท่ีเห็นวา่คาํขอ

รับสิทธิบตัรใดมีการประดิษฐห์ลายอยา่งท่ีไม่มีความเก่ียวพนักนัจนอาจถือไดว้า่เป็นการประดิษฐ์อยา่งเดียวกนั

ใหแ้จง้ใหผู้ข้อรับสิทธิบตัรแยกคาํขอสาํหรับการประดิษฐ์แต่ละอยา่ง

ถา้ผูข้อรับสิทธิบตัรไดย้ืน่คาํขอรับสิทธิบตัรสาํหรับการประดิษฐอ์ยา่งหน่ึงอยา่งใดท่ีไดแ้ยกตามวรรคห

น่ึง ภายในหน่ึงร้อยยีสิ่บวนันบัแต่วนัไดรั้บแจง้จากพนกังานเจา้หนา้ท่ี

ใหถื้อวา่ไดย้ืน่คาํขอนั้นในวนัยืน่คาํขอรับสิทธิบตัรคร้ังแรก

การแยกคาํขอใหเ้ป็นไปตามหลกัเกณฑแ์ละวธีิการท่ีกาํหนดโดย กฎกระทรวง

ในกรณีท่ีผูข้อรับสิทธิบตัรไม่เห็นดว้ยกบัคาํสั่งของพนกังานเจา้หนา้ท่ี

ผูข้อรับสิทธิบตัรจะตอ้งยืน่อุทธรณ์คาํสั่งต่ออธิบดีภายในระยะเวลาหน่ึงร้อยยีสิ่บวนั เม่ืออธิบดี

ไดว้นิิจฉยัและมีคาํสั่งแลว้ ใหค้าํสั่งของอธิบดีเป็นท่ีสุด

มาตรา ๒๗ ในการตรวจสอบคาํขอรับสิทธิบตัร

พนกังานเจา้หนา้ท่ีจะเรียกผูข้อรับสิทธิบตัรมาใหถ้อ้ยคาํช้ีแจง หรือใหส่้งเอกสาร หรือส่ิงใดเพิ่มเติมก็ได้

ในกรณีท่ีผูข้อรับสิทธิบตัรไดย้ืน่คาํขอรับสิทธิบตัรไวแ้ลว้นอกราชอาณาจกัร

ใหผู้ข้อรับสิทธิบตัรส่งผลการตรวจสอบการประดิษฐ์

หรือรายละเอียดการประดิษฐ์ท่ีขอรับสิทธิบตัรนั้นตามหลกัเกณฑแ์ละวธีิการท่ีกาํหนดโดยกฎกระทรวง

ในกรณีท่ีจะตอ้งส่งเอกสารเป็นภาษาต่างประเทศ ใหผู้ข้อรับสิทธิบตัร

ส่งเอกสารนั้นพร้อมดว้ยคาํแปลเป็นภาษาไทย

ถา้ผูข้อรับสิทธิบตัรไม่ปฏิบติัตามคาํสั่งของพนกังานเจา้หนา้ท่ีตามวรรคหน่ึง

หรือไม่ส่งเอกสารตามวรรคสองภายในกาํหนดเวลาเกา้สิบวนั ใหถื้อวา่ละทิ้งคาํขอรับสิทธิบตัร

เวน้แต่ในกรณีท่ีมีเหตุจาํเป็นอธิบดีอาจขยายกาํหนดเวลาดงักล่าวใหต้ามท่ีเห็น สมควร

มาตรา ๒๘ เม่ือพนกังานเจา้หนา้ท่ีเสนอรายงานการตรวจสอบคาํขอรับสิทธิบตัร ต่ออธิบดีแลว้

(๑) ถา้อธิบดีพิจารณาเห็นวา่คาํขอรับสิทธิบตัรไม่ถูกตอ้งตามมาตรา ๑๗

หรือการประดิษฐน์ั้นไม่ไดรั้บความคุม้ครองตามมาตรา ๙ ใหอ้ธิบดีสั่งยกคาํขอรับสิทธิบตัร

นั้นและใหพ้นกังานเจา้หนา้ท่ีมีหนงัสือแจง้คาํสั่งโดยทางไปรษณียล์งทะเบียน

ตอบรับไปยงัผูข้อรับสิทธิบตัรหรือโดยวธีิการอ่ืนท่ีอธิบดีกาํหนดภายในสิบหา้วนันบัแต่วนัท่ีอธิบดีมีคาํสั่ง

(๒) ถา้อธิบดีพิจารณาเห็นวา่คาํขอรับสิทธิบตัรถูกตอ้งตามมาตรา ๑๗

และการประดิษฐน์ั้นไดรั้บความคุม้ครองตามมาตรา ๙

ใหอ้ธิบดีมีคาํสั่งใหป้ระกาศโฆษณาคาํขอรับสิทธิบตัรนั้น ทั้งน้ี

ตามหลกัเกณฑแ์ละวธีิการท่ีกาํหนดโดยกฎกระทรวง และก่อนการประกาศโฆษณา

ใหพ้นกังานเจา้หนา้ท่ีแจง้ผูข้อรับสิทธิบตัรโดยวธีิการท่ีอธิบดีกาํหนด

หรือโดยมีหนงัสือแจง้โดยทางไปรษณียล์งทะเบียนตอบรับ เพื่อใหผู้ข้อรับสิทธิบตัรชาํระค่า

ธรรมเนียมการประกาศโฆษณา หากผูข้อรับสิทธิบตัรไม่ชาํระค่าธรรมเนียมการประกาศโฆษณา

ภายในหกสิบวนันบัแต่วนัท่ีไดรั้บแจง้หรือไดรั้บหนงัสือแจง้โดยทางไปรษณียล์งทะเบียนตอบรับ ดงักล่าว

ใหพ้นกังานเจา้หนา้ท่ีมีหนงัสือแจง้ผูข้อรับสิทธิบตัรโดยทางไปรษณียล์งทะเบียน ตอบรับอีกคร้ังหน่ึง

และหากผูข้อรับสิทธิบตัรยงัไม่ชาํระค่าธรรมเนียมการประกาศโฆษณาภายใน

หกสิบวนันบัแต่วนัท่ีไดรั้บหนงัสือแจง้ดงักล่าวอีก ใหถื้อวา่ผูข้อรับสิทธิบตัรละทิ้งคาํขอรับ สิทธิบตัร

มาตรา ๒๙ เม่ือไดป้ระกาศโฆษณาตามมาตรา ๒๘ แลว้

ผูข้อรับสิทธิบตัรตอ้งยืน่คาํขอใหพ้นกังานเจา้หนา้ท่ีตรวจสอบการประดิษฐว์า่เป็นการประดิษฐต์ามมาตรา ๕

ภายใน หา้ปีนบัแต่วนัประกาศโฆษณา ในกรณีท่ีมีการคดัคา้นและมีการอุทธรณ์คาํสั่งของอธิบดีตาม มาตรา ๓๓

และมาตรา ๓๔ ใหย้ืน่คาํขอภายในหน่ึงปีนบัแต่วนัท่ีคาํวินิจฉยัช้ีขาดถึงท่ีสุด แลว้

แต่ระยะเวลาใดจะส้ินสุดลงทีหลงั ถา้ผูข้อรับสิทธิบตัรไม่ยืน่คาํขอภายในเวลาท่ีกาํหนดไว้

ใหถื้อวา่ละทิ้งคาํขอรับสิทธิบตัร

ในกรณีท่ีอธิบดีขอใหส่้วนราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือองคก์ารของรัฐ หรือสาํนกังาน

หรือองคก์ารสิทธิบตัรของรัฐต่างประเทศหรือระหวา่งประเทศ ตรวจสอบการประดิษฐ์ตามมาตรา ๒๕

ถา้มีค่าใชจ่้ายในการตรวจสอบการประดิษฐ์นั้น

ใหผู้ข้อรับสิทธิบตัรชาํระค่าใชจ่้ายนั้นต่อพนกังานเจา้หนา้ท่ีภายในหกสิบวนั นบัแต่วนัท่ีพนกังานเจา้หนา้ท่ี

แจง้ใหท้ราบ ถา้ผูข้อรับสิทธิบตัรไม่ชาํระภายในระยะเวลาท่ีกาํหนดไวใ้หถื้อวา่ละทิ้งคาํขอรับ สิทธิบตัร

มาตรา ๓๐ เม่ือไดป้ระกาศโฆษณาตามมาตรา ๒๘ แลว้ ถา้ปรากฏวา่คาํขอรับ

สิทธิบตัรไม่ชอบดว้ยมาตรา ๕ มาตรา ๙ มาตรา ๑๐ มาตรา ๑๑ หรือมาตรา ๑๔ ให้อธิบดี

สั่งยกคาํขอรับสิทธิบตัร

และใหพ้นกังานเจา้หนา้ท่ีแจง้คาํสั่งไปยงัผูข้อรับสิทธิบตัรรวมทั้งผูค้ดัคา้นในกรณีท่ีมีการคดัคา้นตามมาตรา ๓๑

และใหป้ระกาศโฆษณาคาํสั่งนั้นตามหลกัเกณฑ์ และวธีิการท่ีกาํหนดโดยกฎกระทรวง

มาตรา ๓๑ เม่ือไดป้ระกาศโฆษณาตามมาตรา ๒๘ แลว้

บุคคลใดเห็นวา่ตนมีสิทธิรับสิทธิบตัรดีกวา่ผูข้อรับสิทธิบตัร หรือเห็นวา่คาํขอรับสิทธิบตัรใดไม่ชอบดว้ยมาตรา

๕ มาตรา ๙ มาตรา ๑๐ มาตรา ๑๑ หรือมาตรา ๑๔ จะยืน่คาํคดัคา้นต่อพนกังานเจา้หนา้ท่ีก็ได้

แต่ตอ้งยืน่ภายในเกา้สิบวนันบัแต่วนัประกาศโฆษณาตามมาตรา ๒๘

เม่ือพนกังานเจา้หนา้ท่ีไดรั้บคาํคดัคา้นตามวรรคหน่ึง ให้ส่งสาํเนา คาํคดัคา้นไปยงัผูข้อรับสิทธิบตัร

ใหผู้ข้อรับสิทธิบตัรยืน่คาํโตแ้ยง้ภายในเกา้สิบวนันบัแต่วนัท่ี ผูข้อรับสิทธิบตัรไดรั้บสําเนาคาํคดัคา้น

ถา้ผูข้อรับสิทธิบตัรไม่ยืน่คาํโตแ้ยง้ ใหถื้อวา่ละทิ้งคาํขอรับสิทธิบตัร

คาํคดัคา้นและคาํโตแ้ยง้ใหย้ื่นพร้อมทั้งแสดงหลกัฐาน

มาตรา ๓๒ ในการพิจารณาคาํคดัคา้นและคาํโตแ้ยง้ ผูค้ดัคา้น

หรือผูโ้ตแ้ยง้จะนาํพยานหลกัฐานมาแสดงหรือแถลงหรือแถลงเพิ่มเติมก็ได้ ทั้งน้ี ตามระเบียบท่ีอธิบดีกาํหนด

เม่ืออธิบดีไดว้นิิจฉยัและมีคาํสั่งตามมาตรา ๓๓ หรือมาตรา ๓๔แลว้

ใหแ้จง้คาํวนิิจฉยัและคาํสั่งไปยงัผูค้ดัคา้นและผูโ้ตแ้ยง้พร้อมดว้ยเหตุผล

มาตรา ๓๓ เม่ือผูข้อรับสิทธิบตัรยืน่คาํขอใหพ้นกังานเจา้หนา้ท่ีตรวจสอบการประดิษฐต์ามมาตรา ๒๙

และพนกังานเจา้หนา้ท่ีไดท้าํการตรวจสอบตามมาตรา ๒๔ แลว้ ให้

พนกังานเจา้หนา้ท่ีทาํรายงานการตรวจสอบเสนออธิบดี

เม่ืออธิบดีพิจารณารายงานการตรวจสอบของพนกังานเจา้หนา้ท่ีตามวรรคหน่ึงแลว้

เห็นวา่ไม่มีเหตุขดัขอ้งในการออกสิทธิบตัร และเป็นกรณีท่ีไม่มีการคดัคา้นตาม มาตรา ๓๑

หรือในกรณีท่ีมีการคดัคา้นตามมาตรา ๓๑ แต่อธิบดีไดว้นิิจฉยัวา่ผูข้อรับสิทธิบตัร เป็นผูมี้สิทธิ

ใหอ้ธิบดีสั่งใหรั้บจดทะเบียนการประดิษฐแ์ละออกสิทธิบตัรใหแ้ก่ผูข้อรับ สิทธิบตัร

และใหพ้นกังานเจา้หนา้ท่ีแจง้ใหผู้ข้อรับสิทธิบตัรชาํระค่าธรรมเนียมการออก

สิทธิบตัรภายในหกสิบวนันบัแต่วนัท่ีไดรั้บแจง้

เม่ือผูข้อรับสิทธิบตัรไดช้าํระค่าธรรมเนียมตามวรรคสองแลว้ ใหจ้ด

ทะเบียนการประดิษฐแ์ละออกสิทธิบตัรใหแ้ก่ผูข้อรับสิทธิบตัรภายในสิบหา้วนันบัแต่วนัท่ีไดรั้บ

ชาํระค่าธรรมเนียม แต่ตอ้งไม่ก่อนส้ินระยะเวลาอุทธรณ์ตามมาตรา ๗๒ ถา้ผูข้อรับสิทธิบตัร

ไม่ชาํระค่าธรรมเนียมภายในระยะเวลาตามวรรคสองใหถื้อวา่ละทิ้งคาํขอรับสิทธิบตัร

สิทธิบตัรใหเ้ป็นไปตามแบบท่ีกาํหนดโดยกฎกระทรวง

มาตรา ๓๔ ในกรณีท่ีมีผูค้ดัคา้นตามมาตรา ๓๑

และอธิบดีไดว้นิิจฉยัวา่ผูค้ดัคา้นเป็นผูมี้สิทธิรับสิทธิบตัร ใหอ้ธิบดีสั่งยกคาํขอรับสิทธิบตัร

ในกรณีท่ีผูข้อรับสิทธิบตัรมิไดอุ้ทธรณ์คาํสั่งของอธิบดี หรือไดอุ้ทธรณ์

คาํสั่งของอธิบดีและคณะกรรมการ หรือศาลไดมี้คาํสั่งหรือคาํพิพากษาถึงท่ีสุดแลว้

ถา้ผูค้ดัคา้นไดย้ืน่คาํขอรับสิทธิบตัรสาํหรับการประดิษฐ์นั้นภายในหน่ึงร้อยแปดสิบวนันบัแต่วนัมีคาํสั่งของอธิ

บดี หรือนบัแต่วนัท่ีคณะกรรมการหรือศาลมีคาํสั่งหรือคาํพิพากษาถึงท่ีสุด แลว้แต่กรณี

ใหถื้อวา่ผูค้ดัคา้นไดย้ืน่คาํขอนั้นในวนัเดียวกบัวนัท่ีผูข้อรับสิทธิบตัรยืน่คาํขอรับสิทธิบตัร

และใหถื้อวา่การประกาศโฆษณาคาํขอรับสิทธิบตัรของผูถู้กคดัคา้นตามมาตรา ๒๘

เป็นประกาศโฆษณาคาํขอรับสิทธิบตัรของผูค้ดัคา้นดว้ย ในกรณีเช่นน้ี

ผูใ้ดจะยืน่คาํคดัคา้นคาํขอรับสิทธิบตัรของผูค้ดัคา้นเพราะเหตุตนมีสิทธิดีกวา่นั้นไม่ได้

ในการออกสิทธิบตัรใหแ้ก่ผูค้ดัคา้นนั้น

ใหพ้นกังานเจา้หนา้ท่ีทาํการตรวจสอบคาํขอรับสิทธิบตัรและตรวจสอบการประดิษฐข์องผูค้ดัคา้นตามมาตรา

๒๔ และใหน้าํมาตรา ๒๙ มาใชบ้งัคบัแก่ผูค้ดัคา้นดว้ย

ส่วนที่ ๓

สิทธิของผู้ทรงสิทธิบัตร

มาตรา ๓๕ สิทธิบตัรการประดิษฐใ์หมี้อายยุีสิ่บปีนบัแต่วนัขอรับสิทธิบตัรในราชอาณาจกัร

ในกรณีท่ีมีการดาํเนินคดีทางศาลตามมาตรา ๑๖ มาตรา ๗๔ หรือมาตรา ๗๗ ฉ

มิใหน้บัระยะเวลาในระหวา่งการดาํเนินคดีดงักล่าวเป็นอายขุองสิทธิบตัรนั้น

มาตรา ๓๕ ทวิ การกระทาํท่ีขดัต่อมาตรา ๓๖ ก่อนวนัออกสิทธิบตัร มิให้

ถือวา่เป็นการละเมิดสิทธิของผูท้รงสิทธิบตัร

เวน้แต่จะเป็นการกระทาํต่อการประดิษฐท่ี์ขอรับสิทธิบตัรและไดมี้การประกาศโฆษณาคาํขอดงักล่าวตามมาตรา

๒๘ แลว้ โดยบุคคลผูก้ระทาํ รู้วา่การประดิษฐน์ั้นไดมี้การยืน่ขอรับสิทธิบตัรไวแ้ลว้

หรือไดรั้บคาํบอกกล่าวเป็นลายลกัษณ์อกัษรวา่การประดิษฐน์ั้นไดมี้การยืน่ขอรับสิทธิบตัรไวแ้ลว้ ในกรณีเช่นน้ี

ผูข้อรับสิทธิบตัรมีสิทธิไดรั้บค่าเสียหายจากบุคคลผูฝ่้าฝืนสิทธินั้น การเรียกค่าเสียหายดงักล่าว

ใหย้ืน่ฟ้องต่อศาลหลงัจากท่ีไดมี้การออกสิทธิบตัรใหแ้ก่ผูข้อรับสิทธิบตัรแลว้

มาตรา ๓๖ ผูท้รงสิทธิบตัรเท่านั้นมีสิทธิดงัต่อไปน้ี

(๑) ในกรณีสิทธิบตัรผลิตภณัฑ์ สิทธิในการผลิต ใช้ ขาย มีไวเ้พื่อขาย

เสนอขายหรือนาํเขา้มาในราชอาณาจกัรซ่ึงผลิตภณัฑต์ามสิทธิบตัร

(๒) ในกรณีสิทธิบตัรกรรมวิธี สิทธิในการใชก้รรมวธีิตามสิทธิบตัร ผลิตใช้ ขาย มีไวเ้พื่อขาย

เสนอขายหรือนาํเขา้มาในราชอาณาจกัรซ่ึงผลิตภณัฑท่ี์ผลิตโดยใช้ กรรมวธีิตามสิทธิบตัร

ความในวรรคหน่ึงไม่ใชบ้งัคบัแก่

(๑) การกระทาํใด ๆ เพื่อประโยชน์ในการศึกษา คน้ควา้ ทดลอง หรือวจิยั ทั้งน้ี

ตอ้งไม่ขดัต่อการใชป้ระโยชน์ตามปกติของผูท้รงสิทธิบตัร

และไม่ทาํใหเ้ส่ือมเสียต่อประโยชน์อนัชอบธรรมของผูท้รงสิทธิบตัรเกินสมควร

(๒) การผลิตผลิตภณัฑห์รือใชก้รรมวธีิดงัท่ีผูท้รงสิทธิบตัรไดจ้ด ทะเบียนไว้

ซ่ึงผูผ้ลิตผลิตภณัฑห์รือผูใ้ชก้รรมวธีิดงักล่าวไดป้ระกอบกิจการหรือมีเคร่ืองมือ

เคร่ืองใชเ้พื่อประกอบกิจการดงักล่าวโดยสุจริตก่อนวนัยืน่ขอรับสิทธิบตัรในราชอาณาจกัร

โดยผูผ้ลิตหรือผูใ้ชก้รรมวธีิไม่รู้หรือไม่มีเหตุอนัควรรู้ถึงการจดทะเบียนนั้น ทั้งน้ี

โดยไม่อยูภ่ายใตบ้งัคบัแห่งมาตรา ๑๙ ทวิ

(๓) การเตรียมยาเฉพาะรายตามใบสั่งแพทย์ โดยผูป้ระกอบวชิาชีพ เวชกรรมหรือผูป้ระกอบโรคศิลปะ

รวมทั้งการกระทาํต่อผลิตภณัฑย์าดงักล่าว

(๔) การกระทาํใด ๆ เก่ียวกบัการขอข้ึนทะเบียนยา โดยผูข้อมีวตัถุประสงคท่ี์จะผลิต จาํหน่าย

หรือนาํเขา้ซ่ึงผลิตภณัฑย์าตามสิทธิบตัรหลงัจากสิทธิบตัร ดงักล่าวส้ินอายลุง

(๕) การใชอุ้ปกรณ์ซ่ึงเป็นการประดิษฐท่ี์ไดรั้บสิทธิบตัรท่ีเก่ียวกบัตวัเรือ เคร่ืองจกัร

หรืออุปกรณ์อ่ืนของเรือของประเทศท่ีเป็นภาคีแห่งอนุสัญญาหรือความตกลงระหวา่งประเทศ

เก่ียวกบัการคุม้ครองสิทธิบตัรซ่ึงประเทศไทยเป็นภาคีอยูด่ว้ย

ในกรณีท่ีเรือดงักล่าวไดเ้ขา้มาในราชอาณาจกัรเป็นการชัว่คราวหรือโดยอุบติัเหตุ

และจาํเป็นตอ้งใชอุ้ปกรณ์ดงักล่าวกบัเรือนั้น

(๖) การใชอุ้ปกรณ์ซ่ึงเป็นการประดิษฐท่ี์ไดรั้บสิทธิบตัรท่ีเก่ียวกบั การสร้างการทาํงาน

หรืออุปกรณ์อ่ืนของอากาศยาน หรือยานพาหนะของประเทศท่ีเป็นภาคีแห่งอนุสัญญา

หรือความตกลงระหวา่งประเทศเก่ียวกบัการคุม้ครองสิทธิบตัรซ่ึงประเทศไทยเป็นภาคีอยูด่ว้ย

ในกรณีท่ีอากาศยานหรือยานพาหนะดงักล่าวไดเ้ขา้มาในราชอาณาจกัรเป็นการชัว่คราวหรือโดยอุบติัเหตุ

(๗) การใช้ ขาย มีไวเ้พื่อขาย เสนอขาย หรือนาํเขา้มาในราชอาณา-จกัร ซ่ึงผลิตภณัฑ์ตามสิทธิบตัร

หากผูท้รงสิทธิบตัรไดอ้นุญาต หรือยนิยอมใหผ้ลิต หรือขายผลิตภณัฑด์งักล่าวแลว้

มาตรา ๓๖ ทวิ สิทธิของผูท้รงสิทธิบตัรตามมาตรา ๓๖

ในการประดิษฐท่ี์ไดรั้บสิทธิบตัรมีขอบเขตดงัระบุในขอ้ถือสิทธิ ในการวนิิจฉยัขอบเขตของการประดิษฐ์ตามขอ้

ถือสิทธิ ใหพ้ิจารณาลกัษณะของการประดิษฐท่ี์ระบุในรายละเอียดการประดิษฐ์และรูปเขียนประกอบดว้ย

ขอบเขตของการประดิษฐท่ี์ไดรั้บความคุม้ครองยอ่มคลุมถึงลกัษณะของการประดิษฐ์ท่ีแมจ้ะมิไดร้ะบุในขอ้ถือสิ

ทธิโดยเฉพาะเจาะจง แต่เป็นส่ิงท่ีมีคุณสมบติัประโยชน์ใชส้อย

และทาํใหเ้กิดผลทาํนองเดียวกบัลกัษณะของการประดิษฐ์ท่ีระบุไวใ้นขอ้

ถือสิทธิตามความเห็นของบุคคลท่ีมีความชาํนาญในระดบัสามญัในศิลปะหรือวทิยาการท่ีเก่ียวขอ้งกบัการประดิ

ษฐน์ั้น

มาตรา ๓๗ ผูท้รงสิทธิบตัรมีสิทธิใชค้าํวา่ “สิทธิบตัรไทย” หรืออกัษร สบท.

หรืออกัษรต่างประเทศท่ีมีความหมายเช่นเดียวกนั ใหป้รากฏท่ีผลิตภณัฑ์ ภาชนะบรรจุ

หรือหีบห่อของผลิตภณัฑห์รือในการโฆษณาการประดิษฐ์ตามสิทธิบตัร

การใชค้าํหรืออกัษรตามวรรคหน่ึงตอ้งระบุหมายเลขสิทธิบตัรไวด้ว้ย

มาตรา ๓๘ ผูท้รงสิทธิบตัรจะอนุญาตใหบุ้คคลใดใชสิ้ทธิตามสิทธิบตัรของตนตามมาตรา ๓๖

และมาตรา ๓๗ หรือจะโอนสิทธิบตัรใหแ้ก่บุคคลอ่ืนก็ได้

มาตรา ๓๙ การอนุญาตใหใ้ชสิ้ทธิตามมาตรา ๓๘ นั้น

(๑) ผูท้รงสิทธิบตัรจะกาํหนดเง่ือนไข

ขอ้จาํกดัสิทธิหรือค่าตอบแทนในลกัษณะท่ีเป็นการจาํกดัการแข่งขนัโดยไม่ชอบธรรมไม่ไดเ้ง่ือนไข

ขอ้จาํกดัสิทธิ หรือค่าตอบแทนในลกัษณะท่ีเป็นการจาํกดัการ แข่งขนัโดยไม่ชอบธรรมตามวรรคหน่ึง

ใหเ้ป็นไปตามท่ีกาํหนดในกฎกระทรวง

(๒) ผูท้รงสิทธิบตัรจะกาํหนดใหผู้รั้บอนุญาตใหใ้ชสิ้ทธิตามสิทธิบตัร

ชาํระค่าตอบแทนสาํหรับการใชก้ารประดิษฐ์ตามสิทธิบตัรหลงัจากสิทธิบตัรหมดอายตุามมาตรา ๓๕ ไม่ได้

การกาํหนดเง่ือนไข ขอ้จาํกดัสิทธิ หรือค่าตอบแทนท่ีขดัต่อบทบญัญติั แห่งมาตราน้ี เป็นโมฆะ

มาตรา ๔๐ ภายใตบ้งัคบัมาตรา ๔๒ ในกรณีท่ีมีผูท้รงสิทธิบตัรร่วมกนั ถา้มิไดต้กลงกนัไวเ้ป็นอยา่งอ่ืน

ผูท้รงสิทธิบตัรร่วมแต่ละคนมีสิทธิใชสิ้ทธิตามมาตรา ๓๖ และ มาตรา ๓๗

โดยไม่ตอ้งไดรั้บความยนิยอมจากผูท้รงสิทธิบตัรร่วมคนอ่ืน

แต่การอนุญาตใหใ้ชสิ้ทธิตามสิทธิบตัรหรือการโอนสิทธิบตัร ตามมาตรา ๓๘ ตอ้งไดรั้บความยนิยอมจาก

ผูท้รงสิทธิบตัรร่วมทุกคน

มาตรา ๔๑ การอนุญาตใหใ้ชสิ้ทธิตามสิทธิบตัรและการโอนสิทธิบตัรตามมาตรา ๓๘

ตอ้งทาํเป็นหนงัสือและจดทะเบียนต่อพนกังานเจา้หนา้ท่ีตามหลกัเกณฑ์ วธีิการและ

เง่ือนไขท่ีกาํหนดโดยกฎกระทรวง

ในกรณีท่ีอธิบดีเห็นวา่ขอ้ความใดในสัญญาอนุญาตใหใ้ชสิ้ทธิตาม สิทธิบตัรขดัต่อบทบญัญติัแห่งมาตรา ๓๙

ใหอ้ธิบดีเสนอต่อคณะกรรมการเพื่อพิจารณา ถา้คณะกรรมการวนิิจฉยัวา่สัญญานั้นขดัต่อบทบญัญติัแห่งมาตรา

๓๙ ใหอ้ธิบดีสั่งไม่รับจดทะเบียนสัญญานั้น

เวน้แต่คู่สัญญาจะมีเจตนาให้ส่วนท่ีสมบูรณ์แห่งสัญญานั้นแยกจากส่วนท่ีไม่สมบูรณ์ได้

ในกรณีนั้นอธิบดีจะสั่งรับจดทะเบียนสัญญาบางส่วนก็ได้

(ความในวรรคสามถูกยกเลิก)

มาตรา ๔๒ การขอจดทะเบียนการรับโอนสิทธิบตัรโดยทางมรดก

ใหเ้ป็นไปตามหลกัเกณฑแ์ละวธีิการท่ีกาํหนดโดยกฎกระทรวง

ส่วนที่ ๔

การชําระค่าธรรมเนียมรายปี

มาตรา ๔๓ ผูท้รงสิทธิบตัรตอ้งเสียค่าธรรมเนียมรายปีตามท่ีกาํหนดในกฎกระทรวง

เร่ิมแต่ปีท่ีหา้ของอายสิุทธิบตัร และตอ้งชาํระภายในหกสิบวนันบัแต่วนัเร่ิมตน้ระยะเวลาของ

ปีท่ีหา้นั้นและของทุก ๆ ปีต่อไป

ถา้สิทธิบตัรออกภายหลงัวนัเร่ิมตน้ระยะเวลาของปีท่ีหา้แห่งอายสิุทธิบตัร

การชาํระค่าธรรมเนียมรายปีสาํหรับปีท่ีหา้ถึงปีท่ีออกสิทธิบตัร ใหช้าํระภายในหกสิบวนันบัแต่วนัออกสิทธิบตัร

ถา้ผูท้รงสิทธิบตัรไม่ชาํระค่าธรรมเนียมรายปีภายในกาํหนดเวลาตามวรรคหน่ึงหรือวรรคสอง

ตอ้งเสียค่าธรรมเนียมเพิ่มร้อยละสามสิบของเงินค่าธรรมเนียม รายปี

โดยตอ้งชาํระค่าธรรมเนียมรายปีพร้อมทั้งค่าธรรมเนียมเพิ่มภายในหน่ึงร้อยยีสิ่บวนั

นบัแต่วนัส้ินกาํหนดเวลาชาํระค่าธรรมเนียมรายปีตามวรรคหน่ึงหรือวรรคสอง

เม่ือครบกาํหนดเวลาตามวรรคสามแลว้

ถา้ผูท้รงสิทธิบตัรยงัไม่ชาํระค่าธรรมเนียมรายปีและค่าธรรมเนียมเพิ่ม

ใหอ้ธิบดีทาํรายงานต่อคณะกรรมการเพื่อสั่งเพิกถอนสิทธิบตัรนั้น

ในกรณีท่ีผูท้รงสิทธิบตัรร้องขอต่อคณะกรรมการภายในกาํหนดหกสิบวนั

นบัแต่วนัทราบคาํสั่งเพิกถอนสิทธิบตัรวา่มีเหตุจาํเป็นไม่อาจชาํระค่าธรรมเนียมรายปี

และค่าธรรมเนียมเพิ่มภายในกาํหนดเวลาตามวรรคสามได้

คณะกรรมการอาจขยายกาํหนดเวลาหรือเพิกถอนคาํสั่งเพิกถอนสิทธิบตัรนั้นตามท่ีเห็นสมควรก็ได้

มาตรา ๔๔ ผูท้รงสิทธิบตัรจะขอชาํระค่าธรรมเนียมรายปีล่วงหนา้โดยชาํระ

ทั้งหมดในคราวเดียวแทนการชาํระค่าธรรมเนียมเป็นรายปีก็ได้

ในกรณีท่ีผูท้รงสิทธิบตัรไดช้าํระค่าธรรมเนียมรายปีล่วงหนา้ไปแลว้

แต่ไดมี้การแกไ้ขอตัราค่าธรรมเนียมรายปี หรือผูท้รงสิทธิบตัรขอคืนสิทธิบตัร หรือมีการเพิกถอนสิทธิบตัรนั้น

ผูท้รงสิทธิบตัรไม่ตอ้งชาํระค่าธรรมเนียมรายปีเพิ่มเติม

หรือไม่มีสิทธิไดรั้บคืนค่าธรรมเนียมรายปีท่ีไดจ้่ายล่วงหนา้ไปแลว้นั้น

ส่วนที่ ๕

การใช้สิทธิตามสิทธิบัตร

มาตรา ๔๕ ผูท้รงสิทธิบตัรจะขอใหบ้นัทึกคาํยนิยอมใหบุ้คคลอ่ืนใชสิ้ทธิตาม

สิทธิบตัรของตนลงในทะเบียนสิทธิบตัรตามหลกัเกณฑแ์ละวธีิการท่ีกาํหนดในกฎกระทรวงก็ได้

เม่ือไดบ้นัทึกคาํยนิยอมลงในทะเบียนสิทธิบตัรแลว้และมีผูม้าขอใชสิ้ทธิบตัรนั้น

ใหอ้ธิบดีอนุญาตใหบุ้คคลซ่ึงขอใชสิ้ทธิตามสิทธิบตัรนั้นใชสิ้ทธิบตัรได้

ตามเง่ือนไขขอ้จาํกดัสิทธิและค่าตอบแทนในการใชสิ้ทธิตามสิทธิบตัร

ท่ีผูท้รงสิทธิบตัรและผูข้อใชสิ้ทธิตามสิทธิบตัรตกลงกนั

หากทั้งสองฝ่ายตกลงกนัไม่ไดภ้ายในระยะเวลาท่ีอธิบดีกาํหนดให้อธิบดีกาํหนดเง่ือนไข

ขอ้จาํกดัสิทธิและค่าตอบแทนตามท่ีอธิบดีพิจารณาเห็นสมควร

คาํวนิิจฉยัของอธิบดีตามวรรคสอง คู่กรณีอาจอุทธรณ์ต่อคณะ

กรรมการภายในสามสิบวนันบัแต่วนัท่ีไดรั้บแจง้คาํวนิิจฉยันั้น คาํวนิิจฉยัของคณะกรรมการใหเ้ป็นท่ีสุด

การขอใชสิ้ทธิและการอนุญาตตามวรรคสอง ใหเ้ป็นไปตามหลกัเกณฑ์

และวธีิการท่ีกาํหนดในกฎกระทรวง

เม่ือไดมี้การบนัทึกคาํยนิยอมตามวรรคหน่ึง ใหล้ดค่าธรรมเนียม

รายปีสาํหรับสิทธิบตัรนั้นลงตามท่ีกาํหนดในกฎกระทรวง แต่ตอ้งไม่นอ้ยกวา่ก่ึงหน่ึงของค่าธรรมเนียมรายปี

มาตรา ๔๖ เม่ือพน้กาํหนดสามปีนบัแต่วนัออกสิทธิบตัรหรือส่ีปีนบัแต่วนั ยื่นขอรับสิทธิบตัร

แลว้แต่ระยะเวลาใดจะส้ินสุดลงทีหลงั บุคคลอ่ืนจะยืน่คาํขอใชสิ้ทธิตามสิทธิบตัรนั้นต่ออธิบดีก็ได้

ถา้ปรากฏวา่ในขณะท่ียืน่คาํขอมีพฤติการณ์แสดงวา่ผูท้รงสิทธิบตัร ไม่ใชสิ้ทธิโดยชอบดงัต่อไปน้ี

(๑)

ไม่มีการผลิตผลิตภณัฑห์รือไม่มีการใชก้รรมวธีิตามสิทธิบตัรภายในราชอาณาจกัรโดยไม่มีเหตุผลอนัสมควร

หรือ

(๒) ไม่มีการขายผลิตภณัฑ์ตามสิทธิบตัรหรือผลิตภณัฑท่ี์ใชก้รรมวธีิตามสิทธิบตัร

หรือมีการขายผลิตภณัฑ์ดงักล่าวในราคาสูงเกินควรหรือไม่พอสนองความ

ตอ้งการของประชาชนภายในราชอาณาจกัรโดยไม่มีเหตุผลอนัสมควร

ทั้งน้ี ไม่วา่จะเป็นกรณีตาม (๑) หรือ (๒) ผูข้อใชสิ้ทธิจะตอ้งแสดงวา่

ผูข้อไดพ้ยายามขออนุญาตใชสิ้ทธิตามสิทธิบตัรจากผูท้รงสิทธิบตัรโดยไดเ้สนอเง่ือนไขและ

ค่าตอบแทนท่ีเพียงพอตามพฤติการณ์แห่งกรณีแลว้ แต่ไม่สามารถตกลงกนัไดภ้ายในระยะเวลาอนัสมควร

การขอใชสิ้ทธิตามสิทธิบตัรใหเ้ป็นไปตามหลกัเกณฑ์ วธีิการและ เง่ือนไขท่ีกาํหนดโดยกฎกระทรวง

มาตรา ๔๖ ทวิ ยกเลิกทั้งมาตรา

มาตรา ๔๗ ถา้การใชสิ้ทธิตามขอ้ถือสิทธิในสิทธิบตัรใดอาจมีผลเป็นการ

ละเมิดขอ้ถือสิทธิในสิทธิบตัรอ่ืน ผูท้รงสิทธิบตัรซ่ึงประสงคจ์ะใชสิ้ทธิดงักล่าวจะยืน่คาํขอใช้

สิทธิตามสิทธิบตัรอ่ืนต่ออธิบดีก็ได้ ภายใตห้ลกัเกณฑด์งัต่อไปน้ี

(๑) การประดิษฐข์องผูข้อใชสิ้ทธิเป็นการประดิษฐท่ี์มีความกา้วหนา้

อยา่งสาํคญัทางเทคโนโลยซ่ึีงเป็นผลดีทางดา้นเศรษฐกิจ เม่ือเทียบกบัการประดิษฐข์อง สิทธิบตัรท่ีขอใช้

(๒)

ผูท้รงสิทธิบตัรมีสิทธิท่ีจะใชสิ้ทธิตามสิทธิบตัรของผูข้อใชสิ้ทธิภายใตเ้ง่ือนไขท่ีเหมาะสมในการขอใชสิ้ทธินั้น

(๓) ผูข้อใชสิ้ทธิไม่อาจโอนการใชสิ้ทธิดงักล่าวใหแ้ก่บุคคลอ่ืน เวน้แต่

จะเป็นการโอนไปพร้อมกบัสิทธิบตัรของตน

ทั้งน้ี ผูข้อใชสิ้ทธิจะตอ้งแสดงวา่ไดพ้ยายามขออนุญาตใชสิ้ทธิตามสิทธิบตัรจากผูท้รงสิทธิบตัรนั้น

โดยไดเ้สนอเง่ือนไขและค่าตอบแทนท่ีเพียงพอตามพฤติการณ์ แห่งกรณีแลว้

แต่ไม่สามารถตกลงกนัไดภ้ายในระยะเวลาอนัสมควร

การขอใชสิ้ทธิตามสิทธิบตัรใหเ้ป็นไปตามหลกัเกณฑ์ วธีิการ และเง่ือนไขท่ีกาํหนดโดยกฎกระทรวง

มาตรา ๔๗ ทวิ ถา้การใชสิ้ทธิตามขอ้ถือสิทธิในสิทธิบตัรท่ีไดรั้บอนุญาตใหใ้ชต้ามมาตรา ๔๖

อาจมีผลเป็นการละเมิดขอ้ถือสิทธิในสิทธิบตัรของบุคคลอ่ืนอีก ผูข้อใชสิ้ทธิตามมาตรา ๔๖

จะยืน่คาํขอใชสิ้ทธิตามสิทธิบตัรอ่ืนนั้นต่ออธิบดีก็ไดภ้ายใตห้ลกัเกณฑ์ ดงัต่อไปน้ี

(๑)

การประดิษฐข์องผูข้อใชสิ้ทธิเป็นการประดิษฐท่ี์มีความกา้วหนา้อยา่งสาํคญัทางเทคโนโลยซ่ึีงเป็นผลดีทางดา้นเ

ศรษฐกิจ เม่ือเทียบกบัการประดิษฐข์อง สิทธิบตัรท่ีขอใช้

(๒) ผูข้อใชสิ้ทธิไม่อาจโอนการใชสิ้ทธิดงักล่าวใหแ้ก่บุคคลอ่ืน

ทั้งน้ี ผูข้อใชสิ้ทธิจะตอ้งแสดงวา่ไดพ้ยายามขออนุญาตใชสิ้ทธิตามสิทธิบตัรจากผูท้รงสิทธิบตัรนั้น

โดยไดเ้สนอเง่ือนไขและค่าตอบแทนท่ีเพียงพอตามพฤติการณ์แห่งกรณีแลว้

แต่ไม่สามารถตกลงกนัไดภ้ายในระยะเวลาอนัสมควร

การขอใชสิ้ทธิตามสิทธิบตัรใหเ้ป็นไปตามหลกัเกณฑ์ วธีิการ และเง่ือนไขท่ีกาํหนดโดยกฎกระทรวง

มาตรา ๔๘ ผูท้รงสิทธิบตัรมีสิทธิไดรั้บค่าตอบแทนในการขอใชสิ้ทธิตามมาตรา ๔๖ มาตรา ๔๗

และมาตรา ๔๗ ทวิ

สาํหรับผูไ้ดรั้บอนุญาตแต่เพียงผูเ้ดียวใหใ้ชสิ้ทธิของผูท้รงสิทธิบตัรตามมาตรา ๓๘

มีสิทธิไดรั้บค่าตอบแทนในการขอใชสิ้ทธิตามมาตรา ๔๖ มาตรา ๔๗ หรือมาตรา ๔๗ ทวิ ได้

ในกรณีน้ีผูท้รงสิทธิบตัรไม่มีสิทธิไดรั้บค่าตอบแทน

มาตรา ๔๙ ในการยืน่คาํขอใชสิ้ทธิตามมาตรา ๔๖ มาตรา ๔๗ หรือมาตรา ๔๗ ทวิ

ผูข้อใชสิ้ทธิตอ้งเสนอค่าตอบแทน

เง่ือนไขในการใชสิ้ทธิตามสิทธิบตัรและขอ้จาํกดัสิทธิของผูท้รงสิทธิบตัรและผูไ้ดรั้บอนุญาตใหใ้ชสิ้ทธิของผูท้

รงสิทธิบตัร ตามมาตรา ๔๘ วรรคสอง พร้อมกบัคาํขอใชสิ้ทธิ สาํหรับกรณีการขอใชสิ้ทธิตามมาตรา ๔๗

ผูข้อใชสิ้ทธิ

ตอ้งยนิยอมอนุญาตให้ผูท้รงสิทธิบตัรท่ีตนขอใชสิ้ทธิเป็นผูมี้สิทธิใชสิ้ทธิตามสิทธิบตัรของตนเป็นการตอบแท

นดว้ย

เม่ือไดรั้บคาํขอใชสิ้ทธิตามมาตรา ๔๖ มาตรา ๔๗ หรือมาตรา ๔๗ ทวิ แลว้

ใหพ้นกังานเจา้หนา้ท่ีแจง้กาํหนดวนัสอบสวนคาํขอไปยงัผูข้อใชสิ้ทธิ ผูท้รงสิทธิบตัร

และผูไ้ดรั้บอนุญาตใหใ้ชสิ้ทธิของผูท้รงสิทธิบตัรตามมาตรา ๔๘ วรรคสอง ในการน้ี

ใหส่้งสาํเนาคาํขอไปยงัผูท้รงสิทธิบตัรและผูไ้ดรั้บอนุญาตใหใ้ชสิ้ทธิของผูท้รงสิทธิบตัรตามมาตรา ๔๘

วรรคสองดว้ย

ในการสอบสวนตามวรรคสอง พนกังานเจา้หนา้ท่ีจะเรียกผูข้อใชสิ้ทธิ ผูท้รงสิทธิบตัร

หรือผูไ้ดรั้บอนุญาตใหใ้ชสิ้ทธิของผูท้รงสิทธิบตัร ตามมาตรา ๔๘ วรรคสอง มาใหถ้อ้ยคาํช้ีแจง ใหส่้งเอกสาร

หรือส่ิงใดเพิ่มเติมก็ได้ เม่ือพนกังานเจา้หนา้ท่ีไดด้าํเนินการสอบสวนและอธิบดีไดว้นิิจฉยัแลว้

ใหแ้จง้คาํวนิิจฉยัไปยงัผูข้อใชสิ้ทธิ ผูท้รงสิทธิบตัรและ ผูไ้ดรั้บอนุญาตใหใ้ชสิ้ทธิของผูท้รงสิทธิบตัรตามมาตรา

๔๘ วรรคสอง

คาํวนิิจฉยัของอธิบดีตามวรรคสาม คู่กรณีอาจอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการ

ไดภ้ายในหกสิบวนันบัแต่วนัท่ีไดรั้บแจง้คาํวนิิจฉยันั้น

มาตรา ๕๐ เม่ืออธิบดีวนิิจฉยัวา่ผูข้อใชสิ้ทธิตามมาตรา ๔๖ มาตรา ๔๗ หรือมาตรา ๔๗ ทวิ

เป็นผูส้มควรไดรั้บอนุญาตใหใ้ชสิ้ทธิตามสิทธิบตัรได้ ใหอ้ธิบดีกาํหนด ค่าตอบแทน

เง่ือนไขในการใชสิ้ทธิตามสิทธิบตัร และขอ้จาํกดัสิทธิของผูท้รงสิทธิบตัรและ

ผูไ้ดรั้บอนุญาตใหใ้ชสิ้ทธิของผูท้รงสิทธิบตัรตามมาตรา ๔๘ วรรคสอง

ตามท่ีผูท้รงสิทธิบตัรและผูไ้ดรั้บอนุญาตไดต้กลงกนั

และในกรณีท่ีทั้งสองฝ่ายตกลงกนัไม่ไดภ้ายในระยะเวลาท่ีอธิบดีกาํหนด ให้อธิบดีกาํหนดค่าตอบแทน

เง่ือนไขในการใชสิ้ทธิตามสิทธิบตัร และขอ้จาํกดั สิทธิดงักล่าวตามท่ีอธิบดีพิจารณาเห็นสมควร

ภายใตห้ลกัเกณฑด์งัต่อไปน้ี

(๑) ขอบเขตและระยะเวลาท่ีอนุญาตตอ้งไม่เกินกวา่พฤติการณ์อนั จาํเป็น

(๒) ผูท้รงสิทธิบตัรมีสิทธิท่ีจะอนุญาตใหผู้รั้บอนุญาตรายอ่ืนใชสิ้ทธิตามสิทธิบตัรของตนดว้ยก็ได้

(๓) ผูรั้บอนุญาตไม่มีสิทธิโอนใบอนุญาตใหแ้ก่บุคคลอ่ืน

เวน้แต่จะโอนกิจการหรือช่ือเสียงในทางการคา้ โดยเฉพาะในส่วนท่ีเก่ียวกบัการอนุญาตใหใ้ชสิ้ทธินั้น ดว้ย

(๔) การอนุญาตจะตอ้งมุ่งสนองความตอ้งการของประชาชนภายในราชอาณาจกัรเป็นสําคญั

(๕) ค่าตอบแทนท่ีกาํหนดจะตอ้งเพียงพอต่อพฤติการณ์แห่งกรณี

เม่ืออธิบดีไดก้าํหนดค่าตอบแทน เง่ือนไขในการใชสิ้ทธิตามสิทธิบตัร และขอ้จาํกดัสิทธิดงักล่าวแลว้

ใหอ้ธิบดีสั่งใหอ้อกใบอนุญาตใหแ้ก่ผูไ้ดรั้บอนุญาตใหใ้ชสิ้ทธิตามสิทธิบตัรนั้น

คาํสั่งของอธิบดีตามวรรคหน่ึง คู่กรณีอาจอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการ

ไดภ้ายในหกสิบวนันบัแต่วนัท่ีไดรั้บแจง้คาํวนิิจฉยันั้น

การออกใบอนุญาตใหใ้ชสิ้ทธิตามสิทธิบตัรตามวรรคสอง ใหเ้ป็นไป

ตามหลกัเกณฑแ์ละวธีิการท่ีกาํหนดโดยกฎกระทรวง

มาตรา ๕๐ ทวิ ใบอนุญาตให้ใชสิ้ทธิท่ีออกใหด้ว้ยเหตุตามมาตรา ๔๖

อาจยกเลิกไดห้ากปรากฏวา่เหตุแห่งการอนุญาตไดห้มดส้ินไปและไม่อาจเกิดข้ึนไดอี้ก และการ

ยกเลิกดงักล่าวจะไม่กระทบกระเทือนสิทธิหรือผลประโยชน์ท่ีผูไ้ดรั้บอนุญาตใหใ้ชสิ้ทธิไดรั้บตามใบอนุญาตใ

หใ้ชสิ้ทธินั้น

การขอใหย้กเลิกใบอนุญาตตามวรรคหน่ึงให้เป็นไปตามหลกัเกณฑ์ และวธีิการท่ีกาํหนดโดยกฎกระทรวง

และใหน้าํบทบญัญติัมาตรา ๔๙ วรรคสองและวรรค สาม และมาตรา ๕๐ มาใชบ้งัคบัโดยอนุโลม

มาตรา ๕๑ เพื่อประโยชน์ในการประกอบกิจการอนัเป็นสาธารณูปโภคหรือ

การอนัจาํเป็นในการป้องกนัประเทศ หรือการสงวนรักษาหรือการไดม้าซ่ึงทรัพยากรธรรมชาติ หรือส่ิงแวดลอ้ม

หรือป้องกนัหรือบรรเทาการขาดแคลนอาหาร ยา หรือส่ิงอุปโภคบริโภคอยา่งอ่ืนอยา่งรุนแรง

หรือเพื่อประโยชน์สาธารณะอยา่งอ่ืน กระทรวง ทบวง กรม อาจใชสิ้ทธิ

ตามสิทธิบตัรอยา่งใดอยา่งหน่ึงตามมาตรา ๓๖ โดยกระทาํการดงักล่าวเองหรือใหบุ้คคลอ่ืนกระทาํแทน

ในการใชสิ้ทธิดงักล่าว กระทรวง ทบวง กรม

จะตอ้งเสียค่าตอบแทนแก่ผูท้รงสิทธิบตัรหรือผูไ้ดรั้บอนุญาตใหใ้ชสิ้ทธิของผูท้รงสิทธิบตัรตามมาตรา ๔๘

วรรคสอง และจะตอ้งแจง้ให้ผูท้รงสิทธิบตัรทราบเป็นหนงัสือโดยไม่ชกัชา้ ทั้งน้ี

โดยไม่อยูภ่ายใตบ้งัคบัเง่ือนไขมาตรา ๔๖ มาตรา ๔๗ และมาตรา ๔๗ ทวิ

ในการน้ีใหย้ืน่คาํขอเสนอค่าตอบแทนและเง่ือนไขในการใชสิ้ทธิตามสิทธิบตัรต่ออธิบดี

การกาํหนดค่าตอบแทนใหเ้ป็นไปตามความตกลงระหวา่งกระทรวง ทบวง กรม

ซ่ึงประสงคใ์ชสิ้ทธิตามสิทธิบตัรกบัผูท้รงสิทธิบตัรหรือผูไ้ดรั้บอนุญาตใหใ้ชสิ้ทธิของ ผูท้รงสิทธิบตัร

และใหน้าํมาตรา ๕๐ มาใชบ้งัคบัโดยอนุโลม

มาตรา ๕๒ ในภาวะสงครามหรือในภาวะฉุกเฉิน

นายกรัฐมนตรีโดยอนุมติัคณะรัฐมนตรีมีอาํนาจออกคาํสั่งใชสิ้ทธิตามสิทธิบตัรใด ๆ

ก็ไดเ้พื่อการอนัจาํเป็นในการป้องกนัประเทศและรักษาความมัน่คงแห่งชาติ

โดยเสียค่าตอบแทนท่ีเป็นธรรมแก่ผูท้รง สิทธิบตัร

และตอ้งแจง้ให้ผูท้รงสิทธิบตัรทราบเป็นหนงัสือโดยไม่ชกัชา้

ผูท้รงสิทธิบตัรมีสิทธิอุทธรณ์คาํสั่งดงักล่าวหรือจาํนวนค่าตอบแทนต่อศาลภายในหกสิบวนันบัแต่วนัท่ีไดรั้บแจ้

งคาํสั่งนั้น

ส่วนที่ ๖

การคืนสิทธิบัตร การเลกิข้อถือสิทธิ และการเพกิถอนสิทธิบัตร

มาตรา ๕๓ ผูท้รงสิทธิบตัรจะขอคืนสิทธิบตัร หรือเลิกขอ้ถือสิทธิบางขอ้ก็ได้

โดยทาํตามหลกัเกณฑแ์ละวธีิการท่ีกาํหนดโดยกฎกระทรวง

การขอคืนสิทธิบตัรหรือเลิกขอ้ถือสิทธิบางขอ้ตามวรรคหน่ึง ถา้มีผูท้รงสิทธิบตัรร่วม

ตอ้งไดรั้บความยนิยอมจากผูท้รงสิทธิบตัรร่วมทุกคน

หรือถา้มีการอนุญาตใหบุ้คคลใดใชสิ้ทธิตามสิทธิบตัรตามมาตรา ๓๘ มาตรา ๔๕ มาตรา ๔๖ มาตรา ๔๗

หรือมาตรา ๔๗ ทวิ ตอ้งไดรั้บความยนิยอมจากบุคคลนั้นดว้ย

มาตรา ๕๔ สิทธิบตัรใดไดอ้อกไปโดยไม่ชอบดว้ยมาตรา ๕ มาตรา ๙ มาตรา ๑๐ มาตรา ๑๑ หรือมาตรา

๑๔ ใหถื้อวา่สิทธิบตัรนั้นไม่สมบูรณ์

ความไม่สมบูรณ์ตามวรรคหน่ึง บุคคลใดจะกล่าวอา้งข้ึนก็ได้ หรือ

บุคคลผูมี้ส่วนไดเ้สียหรือพนกังานอยัการจะฟ้องต่อศาลขอใหเ้พิกถอนสิทธิบตัรนั้นก็ได้

มาตรา ๕๕ อธิบดีอาจขอให้คณะกรรมการสั่งเพิกถอนสิทธิบตัรได้ ในกรณีดงัต่อไปน้ี

(๑) ในกรณีท่ีมีการออกใบอนุญาตใหใ้ชสิ้ทธิตามสิทธิบตัรใด ตามมาตรา ๕๐ แลว้

ปรากฏวา่เม่ือพน้กาํหนดระยะเวลาสองปีนบัแต่วนัท่ีออกใบอนุญาต ดงักล่าว ผูท้รงสิทธิบตัร

ผูรั้บอนุญาตจากผูท้รงสิทธิบตัร หรือผูไ้ดรั้บอนุญาตใหใ้ชสิ้ทธิตามสิทธิบตัร

มิไดด้าํเนินการผลิตผลิตภณัฑห์รือไม่มีการใชก้รรมวธีิตามสิทธิบตัรนั้นในราชอาณาจกัรโดยไม่มีเหตุผลอนัสมค

วร หรือในขณะนั้นไม่มีผูใ้ดขายหรือนาํเขา้มาในราชอาณาจกัรเพื่อขายซ่ึงผลิตภณัฑต์ามสิทธิบตัร

หรือผลิตภณัฑท่ี์ผลิตโดยใชก้รรมวธีิตามสิทธิบตัรนั้น หรือมีการขายผลิตภณัฑด์งักล่าวในราคาสูงเกินควร

และอธิบดีเห็นวา่มีเหตุ อนัควรท่ีจะเพิกถอนสิทธิบตัรดงักล่าว

(๒) ผูท้รงสิทธิบตัรไดอ้นุญาตใหบุ้คคลอ่ืนใชสิ้ทธิตามสิทธิบตัรโดย ฝ่าฝืนมาตรา ๔๑

ก่อนการขอใหค้ณะกรรมการสั่งเพิกถอนสิทธิบตัร ใหอ้ธิบดีมีคาํสั่งใหท้าํการสอบสวนขอ้เทจ็จริง

และแจง้คาํสั่งใหผู้ท้รงสิทธิบตัรหรือผูไ้ดรั้บอนุญาตใหใ้ชสิ้ทธิตาม

สิทธิบตัรทราบเพื่อยืน่คาํแถลงแสดงเหตุผลของตน การยืน่คาํแถลงดงักล่าวตอ้งยืน่ภายใน

หกสิบวนันบัแต่วนัท่ีไดรั้บแจง้คาํสั่ง

อธิบดีจะเรียกใหบุ้คคลใดมาใหถ้อ้ยคาํช้ีแจงหรือใหส่้งเอกสารหรือส่ิงใดเพิ่มเติมก็ได้

เม่ืออธิบดีไดท้าํการสอบสวนขอ้เทจ็จริงแลว้เห็นวา่มีเหตุผลสมควรใหเ้พิกถอนสิทธิบตัร

ใหอ้ธิบดีทาํรายงานการสอบสวนเสนอต่อคณะกรรมการเพื่อสั่งเพิกถอน สิทธิบตัร

ส่วนที่ ๗

(ถูกยกเลิก)

หมวดที่ ๓

สิทธิบัตรการออกแบบผลติภัณฑ์

มาตรา ๕๖ การออกแบบผลิตภณัฑท่ี์จะขอรับสิทธิบตัรตามพระราชบญัญติัน้ี

ไดต้อ้งเป็นการออกแบบผลิตภณัฑใ์หม่เพื่ออุตสาหกรรมรวมทั้งหตัถกรรม

มาตรา ๕๗ การออกแบบผลิตภณัฑด์งัต่อไปน้ี ไม่ถือวา่เป็นการออกแบบผลิตภณัฑ์ ใหม่

(๑) แบบผลิตภณัฑท่ี์มีหรือใชแ้พร่หลายอยูแ่ลว้ในราชอาณาจกัรก่อนวนัขอรับสิทธิบตัร

(๒) แบบผลิตภณัฑท่ี์ไดมี้การเปิดเผยภาพ สาระสาํคญั หรือรายละเอียด

ในเอกสารหรือส่ิงพิมพท่ี์ไดเ้ผยแพร่อยูแ่ลว้ ไม่วา่ในหรือนอกราชอาณาจกัรก่อนวนัขอรับสิทธิบตัร

(๓) แบบผลิตภณัฑท่ี์เคยมีประกาศโฆษณาตามมาตรา ๖๕ ประกอบ ดว้ยมาตรา ๒๘

มาแลว้ก่อนวนัขอรับสิทธิบตัร

(๔) แบบผลิตภณัฑท่ี์คลา้ยกบัแบบผลิตภณัฑด์งักล่าวใน (๑) (๒) หรือ (๓)

จนเห็นไดว้า่เป็นการเลียนแบบ

มาตรา ๕๘ การออกแบบผลิตภณัฑด์งัต่อไปน้ีขอรับสิทธิบตัรไม่ได้

(๑) แบบผลิตภณัฑท่ี์ขดัต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอนัดีของประชาชน

(๒) แบบผลิตภณัฑท่ี์กาํหนดโดยพระราชกฤษฎีกา

มาตรา ๕๙ การขอรับสิทธิบตัร ให้เป็นไปตามหลกัเกณฑแ์ละวธีิการท่ีกาํหนดโดยกฎกระทรวง

คาํขอรับสิทธิบตัรใหมี้รายการดงัต่อไปน้ี

(๑) ภาพแสดงแบบผลิตภณัฑ์

(๒) ขอ้ความระบุผลิตภณัฑ์ท่ีจะใชก้บัแบบผลิตภณัฑท่ี์ขอรับสิทธิบตัร

(๓) ขอ้ถือสิทธิโดยชดัแจง้

(๔) รายการอ่ืนตามท่ีกาํหนดโดยกฎกระทรวง

มาตรา ๖๐ คาํขอรับสิทธิบตัรแต่ละฉบบั ใหข้อไดเ้ฉพาะแบบผลิตภณัฑท่ี์ใชก้บัผลิตภณัฑอ์ยา่งเดียว

การกาํหนดผลิตภณัฑต์ามวรรคหน่ึง ให้รัฐมนตรีกาํหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา

มาตรา ๖๐ ทวิ บุคคลตามมาตรา ๑๔

ท่ีไดย้ืน่คาํขอรับสิทธิบตัรสาํหรับการออกแบบผลิตภณัฑ์ไวน้อกราชอาณาจกัร

ถา้ยืน่ขอรับสิทธิบตัรสาํหรับการออกแบบผลิตภณัฑ์

นั้นในราชอาณาจกัรภายในหกเดือนนบัแต่วนัท่ีไดย้ืน่คาํขอรับสิทธิบตัรนอกราชอาณาจกัรเป็นคร้ังแรก

บุคคลนั้นจะขอให้ระบุวา่วนัท่ีไดย้ืน่คาํขอรับสิทธิบตัรนอกราชอาณาจกัรเป็นคร้ังแรกเป็นวนัท่ีไดย้ืน่คาํขอในรา

ชอาณาจกัรก็ได้

มาตรา ๖๑ เม่ือไดป้ระกาศโฆษณาตามมาตรา ๖๕ ประกอบดว้ยมาตรา ๒๘ แลว้

แต่ก่อนท่ีอธิบดีสั่งใหรั้บจดทะเบียนการออกแบบผลิตภณัฑแ์ละออกสิทธิบตัร

ถา้ปรากฏวา่คาํขอรับสิทธิบตัรไม่ชอบดว้ยมาตรา ๕๖ มาตรา ๕๘ หรือมาตรา ๖๕ ประกอบดว้ยมาตรา ๑๐

มาตรา ๑๑ และมาตรา ๑๔ ใหอ้ธิบดีสั่งยกคาํขอรับสิทธิบตัร และใหพ้นกังานเจา้หนา้ท่ี

แจง้คาํสั่งไปยงัผูข้อรับสิทธิบตัรและผูค้ดัคา้นตามมาตรา ๖๕ ประกอบดว้ยมาตรา ๓๑

พร้อมทั้งปิดสาํเนาคาํสั่งไว้ ณ สถานท่ีรับคาํขอรับสิทธิบตัรดว้ย

ในกรณีอธิบดีมีคาํสั่งยกคาํขอรับสิทธิบตัรตามวรรคหน่ึงและมีผูค้ดัคา้นตามมาตรา ๖๕

ประกอบดว้ยมาตรา ๓๑ ให้อธิบดีพิจารณาคาํคดัคา้นของผูค้ดัคา้นต่อไป ตามมาตรา ๖๕ ประกอบดว้ยมาตรา

๓๒

มาตรา ๖๒ สิทธิบตัรการออกแบบผลิตภณัฑใ์หมี้อายสิุบปีนบัแต่วนัขอรับ สิทธิบตัรในราชอาณาจกัร

ในกรณีท่ีมีการดาํเนินคดีทางศาลตามมาตรา ๖๕ ประกอบดว้ย มาตรา ๑๖ หรือมาตรา ๗๔

มิใหน้บัระยะเวลาในระหวา่งการดาํเนินคดีดงักล่าวเป็นอายขุองสิทธิบตัรนั้น

มาตรา ๖๒ ทวิ การกระทาํท่ีขดัต่อมาตรา ๖๓

ก่อนวนัออกสิทธิบตัรมิใหถื้อวา่เป็นการละเมิดสิทธิของผูท้รงสิทธิบตัร

เวน้แต่จะเป็นการกระทาํต่อการออกแบบผลิตภณัฑ์ ท่ีขอรับสิทธิบตัร

และไดมี้การประกาศโฆษณาคาํขอดงักล่าวตามมาตรา ๖๕ ประกอบดว้ย มาตรา ๒๘ แลว้

โดยบุคคลผูก้ระทาํรู้วา่การออกแบบผลิตภณัฑ์นั้นไดมี้การยืน่ขอรับสิทธิบตัร ไวแ้ลว้

หรือไดรั้บคาํบอกกล่าวเป็นลายลกัษณ์อกัษรวา่การออกแบบผลิตภณัฑน์ั้นไดมี้การยืน่ขอรับสิทธิบตัรไวแ้ลว้

ในกรณีเช่นน้ี ผูข้อรับสิทธิบตัรมีสิทธิไดรั้บค่าเสียหายจากบุคคล ผูฝ่้าฝืนสิทธินั้น

การเรียกค่าเสียหายดงักล่าวใหย้ืน่ฟ้องต่อศาล หลงัจากท่ีไดมี้การออก สิทธิบตัรใหแ้ก่ผูข้อรับสิทธิบตัรแลว้

มาตรา ๖๓ ผูท้รงสิทธิบตัรเท่านั้นมีสิทธิใชแ้บบผลิตภณัฑ์กบัผลิตภณัฑต์าม สิทธิบตัร หรือขาย

หรือมีไวเ้พื่อขาย หรือเสนอขาย หรือนาํเขา้มาในราชอาณาจกัรซ่ึง ผลิตภณัฑท่ี์ใชแ้บบผลิตภณัฑด์งักล่าว

เวน้แต่การใชแ้บบผลิตภณัฑเ์พื่อประโยชน์ในการ ศึกษาหรือวิจยั

มาตรา ๖๔ สิทธิบตัรใดไดอ้อกไปโดยไม่ชอบดว้ยมาตรา ๕๖ มาตรา ๕๘ หรือมาตรา ๖๕

ประกอบดว้ยมาตรา ๑๐ มาตรา ๑๑ และมาตรา ๑๔ ใหถื้อวา่สิทธิบตัรนั้นไม่สมบูรณ์

ความไม่สมบูรณ์ตามวรรคหน่ึง บุคคลใดจะกล่าวอา้งข้ึนก็ได้ หรือ

บุคคลผูมี้ส่วนไดเ้สียหรือพนกังานอยัการจะฟ้องต่อศาลขอใหเ้พิกถอนสิทธิบตัรนั้นก็ได้

มาตรา ๖๕ ใหน้าํบทบญัญติัมาตรา ๑๐ มาตรา ๑๑ มาตรา ๑๒ มาตรา ๑๓ มาตรา ๑๔ มาตรา ๑๕ มาตรา

๑๖ มาตรา ๑๙ มาตรา ๒๐ มาตรา ๒๑ มาตรา ๒๒ มาตรา ๒๗ มาตรา ๒๘ มาตรา ๒๙ มาตรา ๓๑ มาตรา ๓๒

มาตรา ๓๓ มาตรา ๓๔ มาตรา ๓๗ มาตรา ๓๘ มาตรา ๓๙ มาตรา ๔๐ มาตรา ๔๑ มาตรา ๔๒ มาตรา ๔๓ มาตรา

๔๔ และมาตรา ๕๓ ในหมวด ๒ วา่ดว้ยสิทธิบตัรการประดิษฐม์าใชบ้งัคบัในหมวด ๓

วา่ดว้ยสิทธิบตัรการออกแบบผลิตภณัฑโ์ดยอนุโลม

หมวด ๓ ทวิ

อนุสิทธิบัตร

มาตรา ๖๕ ทวิ การประดิษฐ์ท่ีขอรับอนุสิทธิบตัรไดต้อ้งประกอบดว้ยลกัษณะ ดงัต่อไปน้ี

(๑) เป็นการประดิษฐข้ึ์นใหม่

(๒) เป็นการประดิษฐท่ี์สามารถประยกุตใ์นทางอุตสาหกรรม

มาตรา ๖๕ ตรี บุคคลใดจะขอรับทั้งอนุสิทธิบตัรและสิทธิบตัรสาํหรับการประดิษฐอ์ยา่งเดียวกนัไม่ได้

มาตรา ๖๕ จัตวา

ผูข้อรับอนุสิทธิบตัรหรือผูข้อรับสิทธิบตัรมีสิทธิขอเปล่ียนแปลงประเภทของสิทธิท่ีจะขอรับจากอนุสิทธิบตัรเป็

นสิทธิบตัร หรือจากสิทธิบตัรเป็นอนุสิทธิบตัรไดก้่อนการจดทะเบียนการประดิษฐแ์ละออกอนุสิทธิบตัร

หรือก่อนการประกาศโฆษณาคาํขอรับสิทธิบตัรตามมาตรา ๒๘ แลว้แต่กรณี

และผูข้อมีสิทธิใหถื้อเอาวนัยืน่คาํขอเดิมเป็นวนั ยืน่คาํขอ ทั้งน้ี

ตามหลกัเกณฑแ์ละวธีิการท่ีกาํหนดโดยกฎกระทรวง

มาตรา ๖๕ เบญจ ในการจดทะเบียนการประดิษฐแ์ละออกอนุสิทธิบตัร ให้

พนกังานเจา้หนา้ท่ีตรวจสอบคาํขอรับอนุสิทธิบตัรใหถู้กตอ้งตามมาตรา ๖๕ ทศ ประกอบดว้ย มาตรา ๑๗

และตรวจสอบวา่การประดิษฐน์ั้นไดรั้บการคุม้ครองตามมาตรา ๖๕ ทศประกอบดว้ยมาตรา ๙ หรือไม่

และทาํรายงานการตรวจสอบเสนอต่ออธิบดี

(๑) ถา้อธิบดีพิจารณาเห็นวา่ คาํขอรับอนุสิทธิบตัรไม่ถูกตอ้งตาม มาตรา ๖๕ ทศ ประกอบดว้ยมาตรา

๑๗ หรือการประดิษฐน์ั้นไม่ไดรั้บความคุม้ครองตามมาตรา ๖๕ ทศ ประกอบดว้ยมาตรา ๙

ใหอ้ธิบดีสั่งยกคาํขอรับอนุสิทธิบตัรนั้นและให้

พนกังานเจา้หนา้ท่ีมีหนงัสือแจง้คาํสั่งโดยทางไปรษณียล์งทะเบียนตอบรับไปยงัผูข้อรับ อนุสิทธิบตัร

หรือโดยวธีิการอ่ืนท่ีอธิบดีกาํหนดภายในสิบหา้วนันบัแต่วนัท่ีอธิบดีมีคาํสั่ง

(๒) ถา้อธิบดีพิจารณาเห็นวา่ คาํขอรับอนุสิทธิบตัรถูกตอ้งตามมาตรา ๖๕ ทศ ประกอบดว้ยมาตรา ๑๗

และการประดิษฐน์ั้นไดรั้บความคุม้ครองตามมาตรา ๖๕ ทศ ประกอบดว้ยมาตรา ๙

ใหอ้ธิบดีมีคาํสั่งใหจ้ดทะเบียนการประดิษฐแ์ละออกอนุสิทธิบตัร

และก่อนการจดทะเบียนการประดิษฐแ์ละออกอนุสิทธิบตัร ใหพ้นกังานเจา้หนา้ท่ีแจง้ผูข้อ

รับอนุสิทธิบตัรเพื่อใหผู้ข้อรับอนุสิทธิบตัรชาํระค่าธรรมเนียมการออกอนุสิทธิบตัรและค่า

ธรรมเนียมการประกาศโฆษณา ตามวธีิการและระยะเวลาท่ีกาํหนดในมาตรา ๖๕ ทศ ประกอบ ดว้ยมาตรา ๒๘

(๒)

อนุสิทธิบตัรให้เป็นไปตามแบบท่ีกาํหนดโดยกฎกระทรวง

มาตรา ๖๕ ฉ

ภายในหน่ึงปีนบัจากวนัประกาศโฆษณาการจดทะเบียนการประดิษฐ์และออกอนุสิทธิบตัร

บุคคลผูมี้ส่วนไดเ้สียอาจขอใหต้รวจสอบวา่การประดิษฐ์ท่ีไดรั้บ อนุสิทธิบตัรมีลกัษณะตามท่ีกาํหนดในมาตรา

๖๕ ทวิ หรือไม่ก็ได้

เม่ือไดรั้บคาํขอใหต้รวจสอบการประดิษฐ์ตามวรรคหน่ึง ใหพ้นกังานเจา้หนา้ท่ีตรวจสอบการประดิษฐ์

และทาํรายงานการตรวจสอบเสนอต่ออธิบดี

เม่ืออธิบดีพิจารณารายงานการตรวจสอบของพนกังานเจา้หนา้ท่ีตามวรรคสองแลว้

เห็นวา่การประดิษฐน์ั้นมีลกัษณะตามท่ีกาํหนดในมาตรา ๖๕ ทวิ ใหอ้ธิบดีแจง้

ใหผู้ข้อใหต้รวจสอบและผูท้รงอนุสิทธิบตัรทราบภายในสิบหา้วนันบัแต่วนัท่ีอธิบดีมีคาํวนิิจฉยั

ในกรณีท่ีอธิบดีเห็นวา่การประดิษฐน์ั้นไม่มีลกัษณะตามท่ีกาํหนดใน มาตรา ๖๕ ทวิ

ใหอ้ธิบดีมีคาํสั่งใหส้อบสวนขอ้เทจ็จริง และแจง้คาํสั่งใหผู้ท้รงอนุสิทธิบตัรทราบ

เพื่อยืน่คาํแถลงแสดงเหตุผลของตนภายในหกสิบวนันบัแต่วนัท่ีไดรั้บแจง้คาํสั่ง

และอธิบดีจะเรียกใหบุ้คคลใดมาใหถ้อ้ยคาํ ช้ีแจง หรือให้ส่งเอกสารหรือส่ิงใดเพิ่มเติมก็ได้

และเม่ือไดส้อบสวนขอ้เท็จจริงเสร็จแลว้ ถา้อธิบดีพิจารณาเห็นวา่การประดิษฐน์ั้นไม่มีลกัษณะ

ตามท่ีกาํหนดในมาตรา ๖๕ ทวิ

ใหอ้ธิบดีทาํรายงานการสอบสวนเสนอต่อคณะกรรมการเพื่อสั่งเพิกถอนอนุสิทธิบตัรนั้น

และแจง้ใหผู้ข้อให้ตรวจสอบและผูท้รงอนุสิทธิบตัรทราบภายใน สิบหา้วนันบัแต่วนัท่ีคณะกรรมการมีคาํสั่ง

มาตรา ๖๕ สัตต อนุสิทธิบตัรใหมี้อายหุกปีนบัแต่วนัขอรับอนุสิทธิบตัรในราช- อาณาจกัร

ในกรณีท่ีมีการดาํเนินคดีทางศาลตามมาตรา ๖๕ ทศ ประกอบดว้ยมาตรา ๑๖ มาตรา ๗๔ หรือมาตรา ๗๗ ฉ

มิใหน้บัระยะเวลาในระหวา่งการดาํเนินคดีดงักล่าวเป็นอายขุองอนุสิทธิบตัรนั้น

ผูท้รงอนุสิทธิบตัรอาจขอต่ออายอุนุสิทธิบตัรไดส้องคราวมีกาํหนดคราวละสองปี

โดยใหย้ืน่คาํขอต่ออายตุ่อพนกังานเจา้หนา้ท่ีภายในเกา้สิบวนัก่อนวนัส้ินอายุ

เม่ือไดย้ืน่คาํขอต่ออายภุายในกาํหนดเวลาดงักล่าวแลว้ ให้ถือวา่อนุสิทธิบตัรนั้นยงัคงจดทะเบียน

อยูจ่นกวา่พนกังานเจา้หนา้ท่ีจะมีคาํสั่งเป็นอยา่งอ่ืน

การขอต่ออายอุนุสิทธิบตัร ใหเ้ป็นไปตามหลกัเกณฑแ์ละวธีิการท่ีอธิบดีประกาศกาํหนด

มาตรา ๖๕ อฏัฐ ผูท้รงอนุสิทธิบตัรมีสิทธิใชค้าํวา่ “อนุสิทธิบตัรไทย” หรือ อกัษร อสบท.

หรืออกัษรต่างประเทศท่ีมีความหมายเช่นเดียวกนัใหป้รากฏท่ีผลิตภณัฑภ์าชนะ บรรจุ หรือหีบห่อของผลิตภณัฑ์

หรือในการโฆษณาการประดิษฐต์ามอนุสิทธิบตัร

การใชค้าํหรืออกัษรตามวรรคหน่ึงตอ้งระบุหมายเลขอนุสิทธิบตัรไวด้ว้ย

มาตรา ๖๕ นว อนุสิทธิบตัรใดไดอ้อกไปโดยไม่ชอบดว้ยมาตรา ๖๕ ทวิ มาตรา ๖๕ ทศ

ประกอบดว้ยมาตรา ๙ มาตรา ๑๐ มาตรา ๑๑ หรือมาตรา ๑๔ ใหถื้อวา่อนุสิทธิบตัรนั้นไม่สมบูรณ์

ความไม่สมบูรณ์ตามวรรคหน่ึงบุคคลใดจะกล่าวอา้งข้ึนก็ได้ หรือบุคคล ผูมี้ส่วนไดเ้สีย

หรือพนกังานอยัการจะฟ้องต่อศาลขอใหเ้พิกถอนอนุสิทธิบตัรนั้นก็ได้

มาตรา ๖๕ ทศ ใหน้าํบทบญัญติัมาตรา ๖ มาตรา ๘ มาตรา ๙ มาตรา ๑๐ มาตรา ๑๑ มาตรา ๑๒ มาตรา

๑๓ มาตรา ๑๔ มาตรา ๑๕ มาตรา ๑๖ มาตรา ๑๗ มาตรา ๑๘ มาตรา ๑๙ มาตรา ๑๙ ทวิ มาตรา ๒๐ มาตรา ๒๑

มาตรา ๒๒ มาตรา ๒๓ มาตรา ๒๕ มาตรา ๒๖ มาตรา ๒๗ มาตรา ๒๘ มาตรา ๓๕ ทวิ มาตรา ๓๖ มาตรา ๓๖

ทวิ มาตรา ๓๘ มาตรา ๓๙ มาตรา ๔๐ มาตรา ๔๑ มาตรา ๔๒ มาตรา ๔๓ มาตรา ๔๔ มาตรา ๔๕ มาตรา ๔๖

มาตรา ๔๗ มาตรา ๔๗ ทวิ มาตรา ๔๘ มาตรา ๔๙ มาตรา ๕๐ มาตรา ๕๐ ทวิ มาตรา ๕๑ มาตรา ๕๒ มาตรา

๕๓ และมาตรา ๕๕ ในหมวด ๒ วา่ดว้ยสิทธิบตัรการประดิษฐม์าใชบ้งัคบัในหมวด ๓ ทวิ วา่ดว้ยอนุสิทธิบตัร

โดยอนุโลม

หมวดที่ ๔

คณะกรรมการสิทธิบัตร

มาตรา ๖๖ ใหมี้คณะกรรมการคณะหน่ึงเรียกวา่ “คณะกรรมการสิทธิบตัร” ประกอบดว้ย

ปลดักระทรวงพาณิชยเ์ป็นประธานกรรมการ และกรรมการผูท้รงคุณวฒิุในสาขาวทิยาศาสตร์ วศิวกรรมศาสตร์

อุตสาหกรรม การออกแบบผลิตภณัฑอุ์ตสาหกรรม เกษตรศาสตร์ เภสัชศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ และนิติศาสตร์

อีกไม่เกินสิบสองคนซ่ึงคณะรัฐมนตรีแต่งตั้ง

โดยในจาํนวนน้ีให้แต่งตั้งจากผูท้รงคุณวฒิุภาคเอกชนไม่นอ้ยกวา่หกคน

คณะกรรมการจะแต่งตั้งบุคคลใดเป็นเลขานุการและผูช่้วยเลขานุการก็ได้

มาตรา ๖๗ กรรมการซ่ึงคณะรัฐมนตรีแต่งตั้งมีวาระอยูใ่นตาํแหน่งคราวละสองปี

ในกรณีท่ีกรรมการพน้จากตาํแหน่ง หรือในกรณีท่ีคณะรัฐมนตรี

แต่งตั้งกรรมการเพิ่มข้ึนในระหวา่งท่ีกรรมการซ่ึงแต่งตั้งไวแ้ลว้ยงัมีวาระอยูใ่นตาํแหน่ง ใหผู้ไ้ด้

รับแต่งตั้งใหด้าํรงตาํแหน่งแทนหรือเป็นกรรมการเพิ่มข้ึนอยูใ่นตาํแหน่งเท่ากบัวาระท่ีเหลืออยูข่องกรรมการซ่ึง

ไดแ้ต่งตั้งไวแ้ลว้

กรรมการซ่ึงพน้จากตาํแหน่งอาจไดรั้บการแต่งตั้งอีกได้

มาตรา ๖๘ กรรมการซ่ึงคณะรัฐมนตรีแต่งตั้งพน้จากตาํแหน่งก่อนวาระเม่ือ

(๑) ตาย

(๒) ลาออก

(๓) คณะรัฐมนตรีให้ออก

(๔) เป็นบุคคลลม้ละลาย

(๕) เป็นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ หรือ

(๖) ไดรั้บโทษจาํคุกโดยคาํพิพากษาถึงท่ีสุดใหจ้าํคุก

เวน้แต่เป็นโทษสาํหรับความผดิท่ีไดก้ระทาํโดยประมาทหรือความผดิลหุโทษ

มาตรา ๖๙ การประชุมของคณะกรรมการตอ้งมีกรรมการมาประชุมไม่นอ้ยกวา่

ก่ึงหน่ึงของจาํนวนกรรมการทั้งหมดจึงเป็นองคป์ระชุม

ถา้ประธานกรรมการไม่มาประชุมหรือไม่สามารถปฏิบติัหนา้ท่ีได้

ใหก้รรมการท่ีมาประชุมเลือกกรรมการคนหน่ึงเป็นประธานใน ท่ีประชุม

การวนิิจฉยัช้ีขาดของท่ีประชุมใหถื้อเสียงขา้งมาก

กรรมการคนหน่ึงใหมี้เสียงหน่ึงในการลงคะแนน ถา้คะแนนเสียงเท่ากนั

ใหป้ระธานในท่ีประชุมออกเสียงเพิ่มข้ึนไดอี้กเสียงหน่ึงเป็นเสียงช้ีขาด

มาตรา ๗๐ คณะกรรมการมีอาํนาจหนา้ท่ีดงัน้ี

(๑) ใหค้าํแนะนาํหรือคาํปรึกษาแก่รัฐมนตรีในการออกกฎกระทรวง ตามพระราชบญัญติัน้ี

(๒) วนิิจฉยัอุทธรณ์คาํสั่งหรือคาํวนิิจฉยัของอธิบดีเก่ียวกบัสิทธิบตัรและอนุสิทธิบตัรตามมาตรา ๔๑

มาตรา ๔๕ มาตรา ๔๙ มาตรา ๕๐ มาตรา ๕๕ มาตรา ๖๕ ฉ หรือมาตรา ๖๕ ทศ ประกอบดว้ยมาตรา ๔๕

มาตรา ๔๙ มาตรา ๕๐ หรือมาตรา ๗๒

(๓) ปฏิบติัการอ่ืนตามท่ีกาํหนดไวใ้นพระราชบญัญติัน้ี

(๔) พิจารณาเร่ืองอ่ืน ๆ ท่ีเก่ียวขอ้งกบัสิทธิบตัรหรือนุสิทธิบตัรตามท่ีรัฐมนตรีมอบหมาย

มาตรา ๗๑ คณะกรรมการมีอาํนาจแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ เพื่อพิจารณาเสนอ

ความเห็นต่อคณะกรรมการ และใหน้าํความในมาตรา ๖๙

มาใชบ้งัคบัแก่การประชุมของคณะอนุกรรมการโดยอนุโลม

มาตรา ๗๒ ในกรณีท่ีมีคาํสั่งหรือคาํวนิิจฉยัของอธิบดีตามมาตรา ๑๒ มาตรา ๑๕ มาตรา ๒๘ มาตรา

๓๐ มาตรา ๓๓ มาตรา ๓๔ มาตรา ๔๙ มาตรา ๕๐ หรือมาตรา ๖๑ หรือมาตรา ๖๕ ประกอบดว้ยมาตรา ๑๒

มาตรา ๑๕ มาตรา ๒๘ มาตรา ๓๓ หรือมาตรา ๓๔ หรือมาตรา ๖๕ เบญจ หรือมาตรา ๖๕ ฉ หรือมาตรา ๖๕

ทศ ประกอบดว้ย มาตรา ๑๒ มาตรา ๑๕ มาตรา ๔๙ หรือมาตรา ๕๐

ผูมี้ส่วนไดเ้สียตามมาตราดงักล่าวมีสิทธิอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการภายในหกสิบวนันบัแต่วนัท่ีไดรั้บแจง้คาํสั่งห

รือคาํวินิจฉยัของ อธิบดี ถา้ไม่อุทธรณ์ภายในระยะเวลาดงักล่าว ใหถื้อวา่คาํสั่งหรือคาํวินิจฉยัของอธิบดีเป็นท่ีสุด

การอุทธรณ์ตามวรรคหน่ึงใหย้ืน่ต่อพนกังานเจา้หนา้ท่ี

ถา้มีคู่กรณีใหพ้นกังานเจา้หนา้ท่ีส่งสาํเนาอุทธรณ์ไปยงัคู่กรณีดว้ย

มาตรา ๗๓ ในการพิจารณาอุทธรณ์คาํสั่ง หรือคาํวนิิจฉยัของอธิบดี

หรือพิจารณารายงานการสอบสวนของอธิบดีตามมาตรา ๕๕ หรือมาตรา ๖๕ ฉ หรือรายงานของ

อธิบดีตามมาตรา ๔๓ หรือมาตรา ๖๕ ทศ ประกอบดว้ยมาตรา ๔๓ เพื่อสั่งเพิกถอน สิทธิบตัรหรืออนุสิทธิบตัร

คณะกรรมการจะใหผู้ค้ดัคา้น หรือผูโ้ตแ้ยง้ หรือผูท้รงสิทธิบตัร หรือผูท้รงอนุสิทธิบตัร

หรือผูข้อให้ตรวจสอบอนุสิทธิบตัร หรือผูไ้ดรั้บอนุญาตใหใ้ชสิ้ทธิตามสิทธิบตัรหรือตามอนุสิทธิบตัร

แลว้แต่กรณี นาํพยานหลกัฐานมาแสดงหรือแถลงเพิ่มเติมก็ได้ ทั้งน้ี ตามระเบียบท่ีคณะกรรมการกาํหนด

มาตรา ๗๔ เม่ือคณะกรรมการไดว้นิิจฉยัหรือมีคาํสั่งตามมาตรา ๔๑ มาตรา ๔๓ มาตรา ๔๙ มาตรา ๕๐

มาตรา ๕๕ หรือมาตรา ๖๕ ฉ หรือมาตรา ๖๕ ทศ ประกอบดว้ยมาตรา ๔๑ มาตรา ๔๓ มาตรา ๔๙ มาตรา ๕๐

หรือมาตรา ๕๕ หรือมาตรา ๗๒ แลว้ ใหแ้จง้คาํวินิจฉยัหรือคาํสั่งพร้อมดว้ยเหตุผลไปยงัผูอุ้ทธรณ์และคู่กรณี

หรือผู ้ ทรงสิทธิบตัร หรือผูท้รงอนุสิทธิบตัร หรือผูไ้ดรั้บอนุญาตใหใ้ชสิ้ทธิตามสิทธิบตัรหรือตาม อนุสิทธิบตัร

แลว้แต่กรณี คู่กรณีฝ่ายใดไม่เห็นดว้ยกบัคาํวนิิจฉยัหรือคาํสั่งนั้น

มีสิทธิอุทธรณ์ต่อศาลไดภ้ายในหกสิบวนันบัแต่วนัท่ีไดรั้บแจง้คาํวนิิจฉยัหรือคาํสั่ง

ถา้ไม่ดาํเนินคดีภายในระยะเวลาดงักล่าว ใหถื้อวา่คาํวนิิจฉยัหรือคาํสั่งของคณะกรรมการเป็นท่ีสุด

ในการพิจารณาพิพากษาอรรถคดีตามพระราชบญัญติัน้ี

หา้มมิใหศ้าลสั่งใหค้ณะกรรมการหรืออธิบดีเสียค่าฤชาธรรมเนียมแทนฝ่ายอ่ืน

หมวด ๕

เบ็ดเตลด็

มาตรา ๗๕ หา้มมิใหบุ้คคลใดซ่ึงไม่มีสิทธิตามพระราชบญัญติัน้ีใชค้าํวา่ “สิทธิบตัรไทย”

“อนุสิทธิบตัรไทย” หรืออกัษร สบท. หรือ อสบท. หรืออกัษร ต่างประเทศท่ีมีความหมายเช่นเดียวกนั

หรือคาํอ่ืนใดท่ีมีความหมายเช่นเดียวกนัใหป้รากฏท่ีผลิตภณัฑ์ ภาชนะบรรจุ หรือหีบห่อของผลิตภณัฑ์

หรือในการโฆษณาการประดิษฐ์ หรือการออกแบบผลิตภณัฑใ์ด ๆ

มาตรา ๗๖ หา้มมิใหบุ้คคลใดใชค้าํวา่ “รอรับสิทธิบตัร” หรือ “รอรับ อนุสิทธิบตัร”

หรือคาํอ่ืนใดท่ีมีความหมายเช่นเดียวกนั ใหป้รากฏท่ีผลิตภณัฑ์ ภาชนะ บรรจุหรือหีบห่อของผลิตภณัฑ์

หรือในการโฆษณาการประดิษฐห์รือการออกแบบผลิตภณัฑ์ ใด ๆ

เวน้แต่เป็นผูข้อรับสิทธิบตัรหรืออนุสิทธิบตัรและยงัอยูใ่นระหวา่งการพิจารณาคาํขอนั้น

มาตรา ๗๗ ในกรณีท่ีผูท้รงสิทธิบตัรหรือผูท้รงอนุสิทธิบตัรในกรรมวธีิการผลิต ผลิตภณัฑ์

ฟ้องผูฝ่้าฝืนสิทธิตามสิทธิบตัรหรืออนุสิทธิบตัรของตนเป็นคดีแพง่ หากผูท้รง

สิทธิบตัรหรือผูท้รงอนุสิทธิบตัรพิสูจน์ไดว้า่ผลิตภณัฑท่ี์จาํเลยผลิต

มีลกัษณะเช่นเดียวกนัหรือคลา้ยกนักบัผลิตภณัฑท่ี์ผลิตโดยใชก้รรมวธีิของผูท้รงสิทธิบตัรหรือผูท้รงอนุสิทธิบตั

ร ใหส้ันนิษฐานไวก่้อนวา่จาํเลยไดใ้ชก้รรมวธีิของผูท้รงสิทธิบตัรหรือผูท้รงอนุสิทธิบตัร

เวน้แต่จาํเลยจะพิสูจน์ให้เห็นเป็นอยา่งอ่ืน

มาตรา ๗๗ ทวิ ในกรณีท่ีมีหลกัฐานโดยชดัแจง้วา่มีผูก้ระทาํหรือกาํลงัจะกระทาํการอยา่งใดอยา่งหน่ึง

อนัเป็นการฝ่าฝืนสิทธิของผูท้รงสิทธิบตัรหรือผูท้รงอนุสิทธิบตัรตาม มาตรา ๓๖ หรือมาตรา ๖๓ หรือมาตรา

๖๕ ทศ ประกอบดว้ยมาตรา ๓๖ ผูท้รงสิทธิบตัร

หรือผูท้รงอนุสิทธิบตัรอาจขอใหศ้าลมีคาํสั่งใหบุ้คคลดงักล่าวระงบัหรือละเวน้การกระทาํดงักล่าว นั้นได้

การท่ีศาลมีคาํสั่งดงักล่าวไม่ตดัสิทธิผูท้รงสิทธิบตัรหรือผูท้รงอนุสิทธิบตัรท่ีจะเรียกค่าเสียหายตามมาตรา ๗๗

ตรี

มาตรา ๗๗ ตรี ในกรณีท่ีมีการฝ่าฝืนสิทธิของผูท้รงสิทธิบตัรหรือผูท้รง อนุสิทธิบตัรตามมาตรา ๓๖

หรือมาตรา ๖๓ หรือมาตรา ๖๕ ทศ ประกอบดว้ยมาตรา ๓๖

ศาลมีอาํนาจสั่งใหผู้ฝ่้าฝืนชดใชค่้าเสียหายแก่ผูท้รงสิทธิบตัรหรือผูท้รงอนุสิทธิบตัรตามจาํนวน

ท่ีศาลเห็นสมควร โดยคาํนึงถึงความร้ายแรงของความเสียหายรวมทั้งการสูญเสียประโยชน์

และค่าใชจ่้ายอนัจาํเป็นในการบงัคบัตามสิทธิของผูท้รงสิทธิบตัรหรือผูท้รงอนุสิทธิบตัรดว้ย

มาตรา ๗๗ จัตวา บรรดาสินคา้ท่ีอยูใ่นครอบครองของผูก้ระทาํการอนัเป็น

การฝ่าฝืนสิทธิของผูท้รงสิทธิบตัรหรือผูท้รงอนุสิทธิบตัรตามมาตรา ๓๖ หรือมาตรา ๖๓ หรือ มาตรา ๖๕ ทศ

ประกอบดว้ยมาตรา ๓๖ ให้ริบเสียทั้งส้ิน

ในกรณีท่ีศาลเห็นสมควรอาจมีคาํสั่งใหท้าํลายสินคา้ดงักล่าวหรือดาํเนินการอยา่งอ่ืนเพื่อป้องกนัมิใหมี้การนาํเอา

สินคา้ดงักล่าว ออกจาํหน่ายอีกก็ได้

มาตรา ๗๗ เบญจ

บุคคลใดขอรับหรือร่วมขอรับทั้งสิทธิบตัรและอนุสิทธิบตัรสาํหรับการประดิษฐอ์ยา่งเดียวกนัโดยไม่ชอบดว้ยมา

ตรา ๖๕ ตรี ใหถื้อวา่บุคคลนั้นขอรับ อนุสิทธิบตัรสาํหรับการประดิษฐ์นั้น

มาตรา ๗๗ ฉ ในกรณีบุคคลหลายคนต่างทาํการประดิษฐ์อยา่งเดียวกนัโดย ไม่ไดร่้วมกนั

และมีบุคคลฝ่ายหน่ึงไดย้ืน่คาํขอรับสิทธิบตัร แต่บุคคลอีกฝ่ายหน่ึงไดย้ืน่คาํขอรับอนุสิทธิบตัร

(๑) ใหบุ้คคลซ่ึงไดย้ืน่คาํขอรับสิทธิบตัรหรือคาํขอรับอนุสิทธิบตัรไวก้่อน

เป็นผูมี้สิทธิรับสิทธิบตัรหรืออนุสิทธิบตัรสาํหรับการประดิษฐน์ั้น

(๒) ถา้มีการยืน่คาํขอรับสิทธิบตัรในวนัเดียวกนักบัการยืน่คาํขอรับ อนุสิทธิบตัร

ใหพ้นกังานเจา้หนา้ท่ีแจง้ให้ผูข้อรับสิทธิบตัรและผูข้อรับอนุสิทธิบตัรทราบเพื่อให้

ทาํความตกลงกนัวา่จะใหบุ้คคลใดมีสิทธิแต่ผูเ้ดียวหรือให้มีสิทธิร่วมกนั และจะใหค้าํขอรับ

สิทธิบตัรหรือคาํขอรับอนุสิทธิบตัรเป็นคาํขอสาํหรับการประดิษฐน์ั้น ถา้ตกลงกนัไม่ไดภ้ายใน

เวลาท่ีอธิบดีกาํหนด ใหคู้่กรณีนาํคดีไปสู่ศาลภายในกาํหนดเกา้สิบวนันบัแต่วนัส้ินสุดระยะเวลา ท่ีอธิบดีกาํหนด

ถา้ไม่นาํคดีไปสู่ศาลภายในระยะเวลาดงักล่าว

ใหถื้อวา่บุคคลเหล่านั้นละทิ้งคาํขอรับสิทธิบตัรและละทิ้งคาํขอรับอนุสิทธิบตัร

มาตรา ๗๗ สัตต ภายในเกา้สิบวนันบัแต่วนัประกาศโฆษณาตามมาตรา ๒๘

หรือวนัประกาศโฆษณาการจดทะเบียนการประดิษฐแ์ละออกอนุสิทธิบตัรสาํหรับการประดิษฐใ์ด

ผูข้อรับอนุสิทธิบตัร ผูท้รงอนุสิทธิบตัร ผูข้อรับสิทธิบตัร

หรือผูท้รงสิทธิบตัรผูใ้ดเห็นวา่การจดทะเบียนการประดิษฐแ์ละออกสิทธิบตัรหรืออนุสิทธิบตัร

สาํหรับการประดิษฐน์ั้นอาจไม่ชอบดว้ยมาตรา ๖๕ ตรี

เพราะการประดิษฐน์ั้นเป็นการประดิษฐ์อยา่งเดียวกนักบัของตน

และตนไดย้ืน่คาํขอรับอนุสิทธิบตัรหรือยืน่คาํขอรับสิทธิบตัรไวใ้นวนัเดียวกนักบัการยื่นคาํขอรับสิทธิบตัร

หรือการยืน่คาํขอรับอนุสิทธิบตัรดงักล่าว

ผูน้ั้นมีสิทธิขอใหต้รวจสอบวา่การประดิษฐ์นั้นไดย้ืน่ขอรับสิทธิบตัรหรืออนุสิทธิบตัรโดยไม่ชอบดว้ยมาตรา

๖๕ ตรี หรือไม่

เม่ือไดรั้บคาํขอใหต้รวจสอบตามวรรคหน่ึง ใหพ้นกังานเจา้หนา้ท่ี

ตรวจสอบและทาํรายงานการตรวจสอบเสนออธิบดี

เม่ืออธิบดีพิจารณารายงานการตรวจสอบของพนกังานเจา้หนา้ท่ีตามวรรคสองแลว้

เห็นวา่การจดทะเบียนการประดิษฐแ์ละออกสิทธิบตัรหรืออนุสิทธิบตัรสาํหรับการประดิษฐน์ั้นจะไม่ชอบดว้ยม

าตรา ๖๕ ตรี เพราะการประดิษฐน์ั้นเป็นการประดิษฐ์อยา่งเดียวกนั

และวนัยืน่คาํขอรับสิทธิบตัรหรือวนัยืน่คาํขอรับอนุสิทธิบตัรเป็นวนัเดียวกนักบัวนัยืน่คาํขอรับอนุสิทธิบตัร

หรือวนัยืน่คาํขอรับสิทธิบตัรของผูข้อให้ตรวจสอบ ให้อธิบดีแจง้ใหผู้ข้อรับสิทธิบตัรหรือผูท้รงอนุสิทธิบตัร

และผูข้อใหต้รวจสอบทราบ เพื่อใหท้าํความตกลงกนัวา่จะใหบุ้คคลใดมีสิทธิแต่ผูเ้ดียวหรือใหมี้สิทธิร่วมกนั

ถา้ตกลงกนัไม่ไดภ้ายในเวลาท่ีอธิบดี กาํหนด ใหถื้อวา่บุคคลเหล่านั้นมีสิทธิร่วมกนัในการประดิษฐ์นั้น

มาตรา ๗๗ อฏัฐ สิทธิบตัรและอนุสิทธิบตัรใดไดอ้อกไปโดยไม่ชอบดว้ย มาตรา ๖๕ ตรี

ใหถื้อวา่สิทธิบตัรและอนุสิทธิบตัรนั้นไม่สมบูรณ์

ความไม่สมบูรณ์ตามวรรคหน่ึง บุคคลใดจะกล่าวอา้งข้ึนก็ได้

ในกรณีการจดทะเบียนการประดิษฐแ์ละออกสิทธิบตัรและอนุสิทธิบตัรโดยไม่ชอบดว้ยมาตรา ๖๕ ตรี

และไดย้ืน่คาํขอรับสิทธิบตัรและอนุสิทธิบตัรสาํหรับการ ประดิษฐน์ั้นในวนัเดียวกนั

ผูท้รงสิทธิบตัรและผูท้รงอนุสิทธิบตัร หรือผูมี้ส่วนไดเ้สียอ่ืน หรือ

พนกังานอยัการอาจขอใหอ้ธิบดีเรียกใหผู้ท้รงสิทธิบตัรและผูท้รงอนุสิทธิบตัรนั้นทาํความตกลง

กนัวา่จะใหบุ้คคลใดมีสิทธิแต่ผูเ้ดียวหรือใหมี้สิทธิร่วมกนั

และตอ้งทาํความตกลงกนัวา่จะเลือกใหก้ารประดิษฐน์ั้นเป็นการประดิษฐท่ี์ไดรั้บสิทธิบตัร

หรืออนุสิทธิบตัรอยา่งใดอยา่งหน่ึงแต่เพียงอยา่งเดียว ถา้ตกลงกนัไม่ไดภ้ายในเวลาท่ีอธิบดีกาํหนด

ใหถื้อวา่ผูท้รงสิทธิบตัรและผู ้

ทรงอนุสิทธิบตัรมีสิทธิร่วมกนัและใหถื้อวา่การประดิษฐน์ั้นเป็นการประดิษฐท่ี์ไดรั้บอนุสิทธิบตัร

มาตรา ๗๘ สิทธิบตัร อนุสิทธิบตัร หรือใบอนุญาตใหใ้ชสิ้ทธิของผูใ้ดสูญหาย หรือชาํรุดในสาระสาํคญั

ใหเ้จา้ของขอรับใบแทนสิทธิบตัร ใบแทนอนุสิทธิบตัร

หรือใบแทนใบอนุญาตใหใ้ชสิ้ทธินั้นไดต้ามหลกัเกณฑแ์ละวธีิการท่ีกาํหนดโดยกฎกระทรวง

มาตรา ๗๙ บรรดาคาํขอ คาํคดัคา้น คาํโตแ้ยง้ และคาํอุทธรณ์ ตามพระราชบญัญติั น้ี

ใหใ้ชแ้บบพิมพแ์ละมีสาํเนาตามท่ีอธิบดีกาํหนด

มาตรา ๘๐ บรรดาคาํขอรับสิทธิบตัร คาํขอรับอนุสิทธิบตัร การประกาศโฆษณา คาํขอรับสิทธิบตัร

คาํขอใหต้รวจสอบการประดิษฐ์ คาํคดัคา้นการขอรับสิทธิบตัร

คาํขอจดทะเบียนสัญญาอนุญาตใหใ้ชสิ้ทธิตามสิทธิบตัรหรืออนุสิทธิบตัร

คาํขอจดทะเบียนรับโอนสิทธิบตัรหรืออนุสิทธิบตัร คาํขอเปล่ียนแปลงสิทธิบตัรหรืออนุสิทธิบตัร คาํขอต่ออายุ

อนุสิทธิบตัร คาํขอบนัทึกคาํยนิยอมใหบุ้คคลอ่ืนใชสิ้ทธิตามสิทธิบตัรหรืออนุสิทธิบตัร

คาํขอใชสิ้ทธิตามสิทธิบตัรหรืออนุสิทธิบตัร ใบอนุญาตใหใ้ชสิ้ทธิตามสิทธิบตัรหรืออนุสิทธิบตัร

คาํอุทธรณ์คาํสั่งหรือคาํวนิิจฉยัของอธิบดี ใบแทนสิทธิบตัรหรืออนุสิทธิบตัร ใบแทน ใบอนุญาตใหใ้ชสิ้ทธิ

คาํขออ่ืน ๆ การคดัสาํเนาเอกสารและการรับรองสาํเนาเอกสาร ใหเ้สีย

ค่าธรรมเนียมตามท่ีกาํหนดในกฎกระทรวง

หมวดที่ ๖

ความผดิและกาํหนดโทษ

มาตรา ๘๑ เจา้พนกังานผูใ้ดฝ่าฝืนมาตรา ๒๑ หรือมาตรา ๒๓ วรรคสอง หรือ มาตรา ๖๕

ประกอบดว้ยมาตรา ๒๑ หรือมาตรา ๖๕ ทศ ประกอบดว้ยมาตรา ๒๑ หรือ มาตรา ๒๓ วรรคสอง

ตอ้งระวางโทษจาํคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสองแสนบาท หรือทั้งจาํทั้งปรับ

มาตรา ๘๒ บุคคลใดฝ่าฝืนมาตรา ๒๒ หรือมาตรา ๖๕ ประกอบดว้ยมาตรา ๒๒ หรือมาตรา ๖๕ ทศ

ประกอบดว้ยมาตรา ๒๒ ตอ้งระวางโทษจาํคุกไม่เกินหกเดือน หรือ ปรับไม่เกินสองหม่ืนบาท หรือทั้งจาํทั้งปรับ

มาตรา ๘๓ บุคคลใดฝ่าฝืนมาตรา ๒๓ วรรคสอง หรือมาตรา ๖๕ ทศ ประกอบ ดว้ยมาตรา ๒๓

วรรคสอง ตอ้งระวางโทษจาํคุกไม่เกินหน่ึงปี หรือปรับไม่เกินหา้หม่ืนบาท หรือทั้งจาํทั้งปรับ

มาตรา ๘๓ ทวิ ยกเลิก

มาตรา ๘๓ ตรี ยกเลิก

มาตรา ๘๓ จัตวา ยกเลิก

มาตรา ๘๔ บุคคลใดฝ่าฝืนมาตรา ๗๕ หรือมาตรา ๗๖ ตอ้งระวางโทษจาํคุกไม่เกิน หน่ึงปี

หรือปรับไม่เกินสองแสนบาท หรือทั้งจาํทั้งปรับ

มาตรา ๘๕ บุคคลใดกระทาํอยา่งใดอยา่งหน่ึงตามมาตรา ๓๖ หรือมาตรา ๖๓

โดยไม่ไดรั้บอนุญาตจากผูท้รงสิทธิบตัร ตอ้งระวางโทษจาํคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกิน ส่ีแสนบาท

หรือทั้งจาํทั้งปรับ

มาตรา ๘๖ บุคคลใดกระทาํอยา่งใดอยา่งหน่ึงตามมาตรา ๖๕ ทศ ประกอบดว้ย มาตรา ๓๖

โดยไม่ไดรั้บอนุญาตจากผูท้รงอนุสิทธิบตัร ตอ้งระวางโทษจาํคุกไม่เกินหน่ึงปี หรือปรับไม่เกินสองแสนบาท

หรือทั้งจาํทั้งปรับ

มาตรา ๘๗ บุคคลใดยืน่ขอรับสิทธิบตัรการประดิษฐห์รือการออกแบบผลิตภณัฑ์ หรืออนุสิทธิบตัร

โดยการแสดงขอ้ความอนัเป็นเทจ็แก่พนกังานเจา้หนา้ท่ีเพื่อใหไ้ดไ้ปซ่ึง สิทธิบตัรหรืออนุสิทธิบตัร

ตอ้งระวางโทษจาํคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหา้พนับาท หรือทั้งจาํทั้งปรับ

มาตรา ๘๘ ในกรณีท่ีผูก้ระทาํผดิซ่ึงตอ้งรับโทษตามพระราชบญัญติัน้ีเป็นนิติบุคคล

ผูด้าํเนินกิจการหรือผูแ้ทนของนิติบุคคลนั้นตอ้งรับโทษตามท่ีกฎหมายกาํหนดสาํหรับความผดิ นั้น ๆ ดว้ย

เวน้แต่จะพิสูจน์ไดว้า่การกระทาํของนิติบุคคลนั้นไดก้ระทาํโดยตนมิไดรู้้เห็นหรือยนิยอมดว้ย

-------------------------------------

ผู้สนองพระราชโองการ

ส. โหตระกิตย์

รองนายกรัฐมนตรี

บัญชีอตัราค่าธรรมเนียม*

๑. คาํขอรับสิทธิบตัรหรืออนุสิทธิบตัร ฉบบัละ ๑,๐๐๐ บาท

๒. คาํขอรับสิทธิบตัรสาํหรับแบบผลิตภณัฑอ์ยา่งเดียวกนั

และยืน่ขอในคราวเดียวกนัตั้งแต่ ๑๐ คาํขอข้ึนไป ๑๐,๐๐๐ บาท

๓. การประกาศโฆษณาคาํขอรับสิทธิบตัร ๕๐๐ บาท

๔. คาํขอใหต้รวจสอบการประดิษฐ์ ฉบบัละ ๕๐๐ บาท

๕. คาํคดัคา้นการขอรับสิทธิบตัร ฉบบัละ ๑,๐๐๐ บาท

๖. สิทธิบตัรหรืออนุสิทธิบตัร ฉบบัละ ๑,๐๐๐ บาท

๗. ค่าธรรมเนียมรายปีสาํหรับสิทธิบตัรการประดิษฐ์

ปีท่ี ๕

ปีท่ี ๖

๒,๐๐๐ บาท

๔,๐๐๐ บาท

๖,๐๐๐ บาท

ปีท่ี ๗

ปีท่ี ๘

ปีท่ี ๙

ปีท่ี ๑๐

ปีท่ี ๑๑

ปีท่ี ๑๒

ปีท่ี ๑๓

ปีท่ี ๑๔

ปีท่ี ๑๕

ปีท่ี ๑๖

ปีท่ี ๑๗

ปีท่ี ๑๘

ปีท่ี ๑๙

ปีท่ี ๒๐

๘,๐๐๐ บาท

๑๐,๐๐๐ บาท

๑๒,๐๐๐ บาท

๑๔,๐๐๐ บาท

๑๖,๐๐๐ บาท

๑๘,๐๐๐ บาท

๒๐,๐๐๐ บาท

๓๐,๐๐๐ บาท

๔๐,๐๐๐ บาท

๕๐,๐๐๐ บาท

๖๐,๐๐๐ บาท

๗๐,๐๐๐ บาท

๘๐,๐๐๐ บาท

หรือชาํระทั้งหมดในคราวเดียว ๔๐๐,๐๐๐ บาท

๘. ค่าธรรมเนียมรายปีสาํหรับสิทธิบตัรการออกแบบผลิตภณัฑ์

ปีท่ี ๕

ปีท่ี ๖

ปีท่ี ๗

ปีท่ี ๘

ปีท่ี ๙

ปีท่ี ๑๐

หรือชาํระทั้งหมดในคราวเดียว

๑,๐๐๐ บาท

๒,๐๐๐ บาท

๓,๐๐๐ บาท

๔,๐๐๐ บาท

๕,๐๐๐ บาท

๖,๐๐๐ บาท

๒๐,๐๐๐ บาท

๙. ค่าธรรมเนียมรายปีสาํหรับอนุสิทธิบตัร

ปีท่ี 5

ปีท่ี 6

หรือชาํระทั้งหมดในคราวเดียว

๒,๐๐๐ บาท

๔,๐๐๐ บาท

๖,๐๐๐ บาท

๑๐. ค่าธรรมเนียมการต่ออายุอนุสิทธิบตัร

คร้ังท่ี ๑

คร้ังท่ี ๒

๑๔,๐๐๐ บาท

๒๒,๐๐๐ บาท

๑๑.

คาํขอจดทะเบียนสัญญาอนุญาตใหใ้ชสิ้ทธิตามสิทธิบตัรหรืออนุสิทธิบตัร

ฉบบัละ ๕๐๐ บาท

๑๒. คาํขอจดทะเบียนรับโอนสิทธิบตัรหรืออนุสิทธิบตัร ฉบบัละ ๕๐๐ บาท

๑๓. คาํขอเปล่ียนแปลงคาํขอรับสิทธิบตัรหรืออนุสิทธิบตัร ฉบบัละ ๕๐๐ บาท

๑๔. ใบอนุญาตใหใ้ชสิ้ทธิตามสิทธิบตัรหรืออนุสิทธิบตัร ฉบบัละ ๑,๐๐๐ บาท

๑๕. ใบแทนสิทธิบตัรหรืออนุสิทธิบตัรหรือใบแทนใบอนุญาตใหใ้ชสิ้ทธิ

ฉบบัละ ๑๐๐ บาท

๑๖. คาํอุทธรณ์คาํสั่งหรือคาํวินิจฉยัของอธิบดี ฉบบัละ ๑,๐๐๐ บาท

๑๗. การคดัสาํเนาเอกสาร หนา้ละ ๑๐ บาท

๑๘. การรับรองสาํเนาเอกสารเอกสารเกิน ๑๐ หนา้ ฉบบัละ ๑๐๐ บาท

เอกสารไม่เกิน ๑๐ หนา้ หนา้ละ ๑๐ บาท

๑๙. คาํขออ่ืน ๆ ฉบบัละ ๑๐๐ บาท

บญัชีอตัราค่าธรรมเนียมน้ีแกไ้ขใหม่โดยพระราชบญัญติัสิทธิบตัร(ฉบบัท่ี ๓) พ.ศ. ๒๕๔๒ มาตรา ๔๒

ดงัขอ้ความท่ีปรากฏน้ีแลว้

หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใชพ้ระราชบญัญติัฉบบัน้ี คือ

เพื่อส่งเสริมใหมี้การคน้ควา้วิจยัและประดิษฐผ์ลิตภณัฑห์รือกรรมวธีิใดข้ึนใหม่

และการออกแบบผลิตภณัฑใ์หม่ๆ ท่ีเป็นประโยชน์และเป็นการกา้วหนา้ทางเทคนิคในเกษตรกรรม

อุตสาหกรรม และพาณิชยกรรมในประเทศ

และเพื่อใหผู้ป้ระดิษฐแ์ละผูอ้อกแบบผลิตภณัฑไ์ดรั้บการคุม้ครองการประดิษฐห์รือการออกแบบผลิตภณัฑ์โดย

หา้มมิใหบุ้คคลอ่ืนลอกเลียนหรือเลียนการประดิษฐ์ หรือการออกแบบผลิตภณัฑน้ี์โดยมิไดค้่าตอบแทน

จึงจาํเป็นตอ้งตราพระราชบญัญติัฉบบัน้ีข้ึน

พระราชบญัญติัสิทธิบตัร พ.ศ. ๒๕๒๒ ไดรั้บการประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๙๖ ตอนท่ี ๓๕

ลงวนัท่ี ๑๖ มีนาคม ๒๕๒๒

ฉบบัท่ีสอง พ.ศ. ๒๕๓๕ ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเล่ม ๑๐๙ ตอนท่ี ๓๔ ลงวนัท่ี ๓ เมษายน

๒๕๓๕และ

ฉบบัท่ีสาม พ.ศ. ๒๕๔๒ ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเล่ม ๑๑๖ ตอนท่ี ๒๒ ก ลงวนัท่ี ๓๑ มีนาคม

๒๕๔๒

หมายเหตุ :-

เน่ืองจากพระราชบญัญติัสิทธิบตัร (ฉบบัท่ี ๓) พ.ศ. ๒๕๔๒ โดยผลของมาตรา ๒

ของพระราชบญัญติัน้ี จะทาํใหบ้ทบญัญติัต่าง ๆ มีผลใชบ้งัคบัเม่ือ พน้กาํหนดหน่ึงร้อย

แปดสิบวนันบัแต่วนัประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นตน้ไป (ประกาศในวนัท่ี ๓๑ มีนาค พ.ศ. ๒๕๔๒) นั้น

เป็นพระราชบญัญติัท่ีออกมาเพื่อแกไ้ขเพิ่มเติมพระราชบญัญติัสิทธิบตัร พ.ศ. ๒๕๒๒ โดยแกไ้ขเพียงบางมาตรา

และมิไดย้กเลิกทั้งฉบบั ดงันั้น ขอ้ความใดท่ีแกไ้ขเพิ่มเติม หรือยกเลิก หรือเพิ่มเติมข้ึนใหม่

โดยเพิ่มเขา้ไปในมาตราเดิม หรือเพิ่มเป็นมาตราใหม่

ไดน้าํขอ้ความดงักล่าวมาใส่ไวแ้ทนขอ้ความเดิมในมาตราต่าง ๆ โดยไดท้าํหมายเหตุ (footnote)

กาํกบัไวเ้พื่อใหเ้ป็นท่ีสะดวกแก่ผูใ้ชไ้วเ้รียบร้อยแลว้ ส่วนขอ้ความในบางมาตรา ของพระราชบญัญติัสิทธิบตัร

(ฉบบัท่ี ๓) พ.ศ. ๒๕๔๒ ท่ีไม่เก่ียวขอ้งกบัการแกไ้ขเพิ่มเติมหรือยกเลิก

หรือเพิ่มเติมข้ึนใหม่โดยเพิ่มเขา้ไปในมาตราเดิม หรือเพิ่มเป็นมาตราใหม่

แต่เป็นบทบญัญติัเฉพาะกาลสาํหรับพระราชบญัญติัฉบบัน้ี

ไดน้าํมาตราดงักล่าวมาแสดงต่อทา้ยหมายเหตุน้ีดว้ยแลว้

มาตรา ๔๓ สิทธิบตัรท่ีออกใหต้ามพระราชบญัญติัสิทธิบตัร พ.ศ. ๒๕๒๒

หรือท่ีออกให้ตามพระราชบญัญติัสิทธิบตัร พ.ศ. ๒๕๒๒ ซ่ึงแกไ้ขเพิ่มเติมโดยพระราชบญัญติัสิทธิบตัร

(ฉบบัท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๓๕ ให้ถือวา่เป็นสิทธิบตัรตามพระราชบญัญติัสิทธิบตัร พ.ศ.๒๕๒๒

ซ่ึงแกไ้ขเพิ่มเติมโดยพระราชบญัญติัน้ี แต่ใหสิ้ทธิบตัรมีอายตุ่อไปไดเ้พียงเท่าท่ีมีเหลืออยูต่ามสิทธิบตัรนั้น

มาตรา ๔๔ คาํขอรับสิทธิบตัรการประดิษฐท่ี์ไดย้ืน่ไวก้่อนวนัท่ีพระราชบญัญติัน้ีมีผลใชบ้งัคบั

และอธิบดียงัไม่มีคาํสั่งตามมาตรา ๓๓ หรือมาตรา ๓๔

ผูข้อมีสิทธิเปล่ียนแปลงเป็นคาํขอรับอนุสิทธบตัรไดภ้ายในหกสิบวนันบัแตวนัท่ีพระราชบญัญติัน้ีใชบ้งัคบั

มาตรา ๔๕ ใหรั้ฐมนตรีวา่การกระทรวงพาณิชยรั์กษาการตามพระราชบญัญติัน้ี”


Législation est modifié(e) par (2 texte(s)) est modifié(e) par (2 texte(s)) Est mis(e) en application par (9 texte(s)) Est mis(e) en application par (9 texte(s)) Référence du document de l'OMC
IP/N/1/THA/I/1/Rev.1
Aucune donnée disponible

N° WIPO Lex TH007